นิยามคำศัพท์ TERMINOLOGY
การเล่นเกมฮอกกี้
กติกาข้อที่ 1
สนามแข่งขัน (Field of play)
สนามเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว 91.40 เมตร กว้าง 55.00 เมตร
เส้นข้างสนามคือเส้นกรอบด้านยาวของสนาม เส้นหลังสนามคือเส้นกรอบด้านสั้นของสนาม
เส้นประตูเป็นส่วนหนึ่งของเส้นหลังสนามซึ่งอยู่ระหว่างเสาทั้งสองข้าง
เส้นกลางสนามคือเส้นที่ตัดผ่านกึ่งกลางสนาม
เส้น 23 เมตรคือเส้นที่ตัดผ่านสนามโดยอยู่ห่างจากเส้นออกหลังทั้งสองด้าน 22.90 เมตร
พื้นที่ที่เรียกว่าเขตยิงประตู จะตั้งอยู่ภายในสนาม รอบประตู และอยู่ตรงกลางของเส้นออกหลังของทั้งสองฝั่ง
จุดโทษเส้นผ่านจุดศูนย์กลาง 150 มม. (15ซม.) อยู่ด้านหน้าจุดกึ่งกลางของประตูทั้งสองฝั่ง มีระยะห่างจากขอบในของเส้นประตู 6.40 เมตร
เส้นทั้งหมดในสนามมีความกว้าง 75 มม. (7.5ซม.) และเป็นส่วนหนึ่งของสนาม
เสาธง มีความสูงระหว่าง 1.20 – 1.50 เมตร ปักอยู่ที่มุมทั้งสี่ของสนาม
ประตู ตำแหน่งของประตูอยู่ตรงกลางด้านนอกสนาม และสัมผัสกับเส้นหลัง
กติกาข้อที่ 2
ส่วนประกอบของทีม (Composition of teams)
2.1 จำนวนผู้เล่นสูงสุด 11 คนของแต่ละทีมที่มีส่วนร่วมตลอดการแข่งขัน
ถ้าจำนวนผู้เล่นมีมากกว่าที่กำหนดในสนาม จะต้องหยุดเวลาเพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง ผู้เล่นที่ควรได้รับการลงโทษคือหัวหน้าทีมที่ทำผิดระเบียบ การตัดสินใจดำเนินการก่อนที่จะหยุดเวลาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
การเริ่มเล่นโดยให้ฝ่ายตรงข้ามได้เล่นลูกกินเปล่า ยกเว้นการลงโทษที่เกิดขึ้นก่อนที่เวลาจะหยุด
2.2 แต่ละทีมจะต้องมีผู้รักษาประตู, ผู้เล่นที่ทำหน้าที่เป็นผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือเล่นโดยใช้ผู้เล่นปกติอย่างใดอย่างหนึ่งในสนาม
แต่ละทีมอาจจะเริ่มเล่นโดย
ผู้รักษาประตู ซึ่งใส่สีเสื้อที่แตกต่าง และใส่ชุดป้องกันเต็มชุดประกอบด้วยอย่างน้อย เครื่องป้องกันศีรษะ, เครื่องป้องกันขา และรองเท้าสำหรับเตะ ผู้เล่นนี้จะถูกอ้างถึงในกติกานี้ว่าคือผู้รักษาประตู หรือ
ผู้เล่นในสนามที่ทำหน้าที่ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษสวมเสื้อสีที่แตกต่าง สำหรับผู้ที่สวมเฉพาะเครื่องป้องกันศีรษะ(ไม่ได้ใส่เครื่องป้องกันขา รองเท้าสำหรับเตะ หรือเครื่องป้องกันอื่นๆ) ในเขต 23 เมตรของตนเอง จะต้องสวมเครื่องป้องกันศีรษะเมื่อจะต้องป้องกันลูกโทษจากมุม และลูกที่จุดโทษ ผู้เล่นนี้จะถูกอ้างถึงในกติกานี้ว่าคือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือ
ผู้เล่นปกติ ผู้เล่นที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือใส่เสื้อสีแตกต่าง ผู้เล่นที่ไม่ได้สวมเครื่องป้องกันศีรษะ ยกเว้นหน้ากากป้องกันลูกในการป้องกันลูกโทษจากมุม และลูกที่จุดโทษ ผู้เล่นทุกคนสวมสีเสื้อเหมือนกัน
การเปลี่ยนตัวผู้เล่นตัวเลือกเหล่านี้กระทำเช่นเดียวกับการเปลี่ยนตัวผู้เล่นทั่วไป
2.3 แต่ละทีมจะได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนตัวผู้เล่นที่ไม่ได้อยู่ในการเล่นดังนี้
การเปลี่ยนตัวอนุญาตให้กระทำได้ทุกช่วงเวลาตลอดการแข่งขัน ยกเว้นช่วงเวลาที่ทีมใดทีมหนึ่งกำลังเล่นลูกโทษจากมุมจนกระทั่งการเล่นนั้นสิ้นสุดลง ในช่วงเวลาดังกล่าวจะอนุญาตให้มีการเปลี่ยนตัวได้เฉพาะอาการบาดเจ็บ หรือถูกสั่งให้พักการเล่น(ใบเขียว,ใบเหลือง)ของผู้รักษาประตูฝ่ายรับ, ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษของฝ่ายรับ หรือผู้เล่นฝ่ายรับ
ถ้าการเล่นลูกโทษจากมุมเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งก่อนการเล่นครั้งแรกจะสิ้นสุด การเปลี่ยนตัวจะอนุญาตให้เฉพาะจากอาการบาดเจ็บ หรือถูกสั่งให้พักการเล่นของผู้รักษาประตูของฝ่ายรับ หรือผู้เล่นฝ่ายรับที่เล่นเป็นผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ
ในการเล่นลูกโทษจากมุม ผู้รักษาประตูของฝ่ายรับ(สวมชุดป้องกันเต็มชุด)ที่ได้รับอาการบาดเจ็บหรือถูกสั่งให้พักการเล่น อาจจะเปลี่ยนตัวได้กับผู้รักษาประตูเต็มชุดหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ
ในการเล่นลูกโทษจากมุม ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษของฝ่ายรับได้รับบาดเจ็บ หรือถูกสั่งให้พักการเล่น สามารถเปลี่ยนตัวได้กับผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษอีกคนหนึ่ง และต้องไม่ใช่กับผู้รักษาประตู(สวมชุดป้องกันเต็มชุด)
ถ้าทีมที่มีเฉพาะผู้เล่นปกติ จะไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้จนกว่าการเล่นลูกโทษจากมุมจะสิ้นสุดลง
ถ้าผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ถูกสั่งให้พักการเล่น ทีมที่ถูกลงโทษจะต้องเล่นโดยมีจำนวนผู้เล่นในสนามน้อยกว่า
ไม่จำกัดจำนวนคนในการเปลี่ยนตัวแต่ละครั้ง และจำนวนครั้งในการเปลี่ยนตัวของผู้เล่นแต่ละคน
การเปลี่ยนตัวอนุญาตให้กระทำได้ต่อเมื่อผู้เล่นที่อยู่ในสนามออกจากสนามแล้วเท่านั้น
การเปลี่ยนตัวไม่อนุญาตให้กระทำกับผู้เล่นที่อยู่ระหว่างถูกลงโทษให้พักการเล่น
หลังจากสิ้นสุดการลงโทษให้พักการเล่น ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนตัวได้ทันทีโดยไม่ต้องลงไปในสนาม
ผู้เล่นจะต้องออกและเข้าสนามในการเปลี่ยนตัวในเขต 3 เมตรกลางสนาม
เวลาจะหยุดให้สำหรับการเปลี่ยนตัวเฉพาะผู้รักษาประตูเต็มชุดเท่านั้น
เวลาจะหยุดสั้นๆให้เฉพาะการเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูเต็มชุด เวลาที่หยุดจะไม่ถูกเพิ่มถ้าผู้รักษาประตูที่อยู่ระหว่างใส่หรือถอดเครื่องป้องกันในระหว่างการเปลี่ยนตัว รวมถึงการบาดเจ็บของผู้รักษาประตูและถูกสั่งลงโทษให้พักการเล่น ถ้าจำเป็นให้การเล่นต่อเนื่องควรเล่นโดยมีผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษและสวมเสื้อสีต่างจากผู้เล่น หรือเล่นโดยใช้ผู้เล่นปกติ ระหว่างการเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูที่อยู่ระหว่างใส่หรือถอดเครื่องป้องกัน
2.4 ผู้เล่นปกติที่ซึ่งออกจากสนามสำหรับอาการบาดเจ็บ, การเปลี่ยนอุปกรณ์แข่งขัน หรือเหตุผลอื่นๆอนุญาตให้กลับเข้าไปในสนามในบริเวณเขต 23 เมตรด้านที่ใช้ในการเปลี่ยนตัว
การเข้าหรือออกนอกสนามที่เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน (เช่นการสวมใส่อุปกรณ์เครื่องป้องกันต่างๆก่อนการเล่นลูกโทษจากมุมของผู้เล่นฝ่ายรับ) จะต้องกระทำอยู่ในเขตของสนามที่เหมาะสมเท่านั้น
2.5 ไม่มีผู้ใดนอกเหนือจากผู้เล่น, ผู้รักษาประตู, ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ และผู้ตัดสิน ที่อนุญาตให้อยู่ ในสนามระหว่างการแข่งขัน นอกเสียจากได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน
2.6 ผู้เล่นเข้าหรือออกจากสนามอยู่ภายใต้อำนาจในการตัดสินใจของผู้ตัดสินตลอดการแข่งขันรวมทั้งระหว่างพักครึ่งเวลา
2.7 ผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บ หรือมีเลือดออก จะต้องออกจากสนามนอกจากเว้นแต่ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ และจะต้องไม่กลับเข้ามาในสนามจนกว่าแผลจะถูกปิด ผู้เล่นจะต้องไม่สวมชุดที่เปื้อนเลือดกลับลงสนาม
กติกาข้อที่ 3
หัวหน้าทีม (Captains)
3.1 หนึ่งในผู้เล่นของแต่ละทีมจะต้องได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าทีม
3.2 หัวหน้าทีมคนที่สองจะต้องได้รับการแต่งตั้งทันทีที่หัวหน้าทีมคนแรกถูกลงโทษให้พักถูกการเล่น
3.3 หัวหน้าทีมจะต้องสวมปลอกแขนที่เห็นชัดเจน หรือข้อความที่คล้ายกันบนแขน, ไหล่ หรือด้านบนของถุงเท้า
3.4 หัวหน้าทีมจะต้องมีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของผู้เล่นทุกคนภายในทีม และจะต้องทำให้ มั่นใจว่าการเปลี่ยนตัวผู้เล่นในทีมตนเองนั้นถูกต้อง
การลงโทษบุคคล จะมีผลต่อหัวหน้าทีมทันทีหากหัวหน้าทีมไม่มีความรับผิดชอบต่อเรื่องเหล่านี้
กติกาข้อที่ 4
ชุดแข่งขัน และอุปกรณ์แข่งขัน (Players’ clothing and equipment)
4.1 ผู้เล่นทีมเดียวกันจะต้องใส่ชุดแข่งขันที่เหมือนกัน
4.2 ผู้เล่นจะต้องไม่สวมใส่สิ่งใดๆที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้เล่นคนอื่นๆ
ผู้เล่นปกติ
อนุญาตให้สวมถุงมือป้องกัน ที่ซึ่งไม่ได้มีขนาดใหญ่ หรือเกินขนาดปกติ
ควรสวมสนับแข้ง, อุปกรณ์ป้องกันข้อเท้า และฟันยาง
อุปกรณ์เหล่านี้อนุญาตให้สวมใส่ตลอดการแข่งขันด้วยเหตุผลทางการแพทย์เท่านั้น เช่น หน้ากากจะต้องเป็นสีเดียว โปร่งใสหรือสีขาว พื้นผิวเรียบ แนบชิดกับใบหน้า, หมวกป้องกันศีรษะ แบบนุ่ม, แว่นตา เลนซ์ลาสติค กรอบพลาสติค ซึ่งเหตุผลทางการแพทย์ต้องได้รับการประเมินโดยผู้มีอำนาจเหมาะสม และผู้เล่นที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้าใจในผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในการเล่นด้วยเหตุผลทางการแพทย์
อนุญาตให้สวมใส่หน้ากากป้องกันที่พื้นผิวเรียบ โปร่งใสหรือสีขาว หรือมีสีเดียวทั้งอัน จะต้องแนบชิดกับใบหน้าเมื่อป้องกันลูกโทษจากมุมและลูกที่จุดโทษ ระยะเวลาที่สวมใส่ในการป้องกันลูกโทษจากมุมและลูกที่จุดโทษที่อยู่ในเขตทำประตูที่ฝ่ายตนเองป้องกัน
ผู้เล่นคนอื่นๆที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ไม่อนุญาตให้สวมใส่เครื่องป้องกันศีรษะ(หน้ากาก หรือหมวกป้องกันศีรษะ)ในสถานการณ์อื่นๆ
4.3 ผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ จะต้องสวมเสื้อสีล้วน (สีเดียว) หรือสิ่งสวมใส่อื่นๆที่สีต้องแตกต่างกับผู้เล่นทั้งสองทีม
ผู้รักษาประตู(สวมชุดป้องกันเต็มชุด)จะต้องสวมเสื้อ หรือสิ่งสวมใส่อื่นๆช่วงบนของร่างกายที่ใช้ในการป้องกัน
4.4 ผู้รักษาประตู จะต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันซึ่งประกอบด้วยอย่างน้อย เครื่องป้องกันศีรษะ, เครื่องป้องกันขา และรองเท้าสำหรับเตะ แต่ว่าเครื่องป้องกันศีรษะ และอุปกรณ์ป้องกันแขนสามารถถอดออกได้เมื่อผู้รักษาประตูทำการยิงลูกที่จุดโทษ
ข้อความด้านบนนี้จะอนุญาตให้ใช้ต่อเมื่อผู้รักษาประตูสวมชุดป้องกันเต็มชุดเท่านั้น (อุปกรณ์ป้องกันร่างกายช่วงบน, แขนด้านบน, ข้อศอก, แขนด้านขวา, ตันขา, อุปกรณ์ป้องกันหัวเข่า, อุปกรณ์ป้องกันขา และรองเท้าที่ใช้เตะ)
4.5 ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษอาจสวมใส่เครื่องป้องกันศีรษะ เมื่ออยู่ในเขต 23 เมตรของตนเอง และ สวมใส่เครื่องป้องกันศีรษะเมื่อป้องกันลูกโทษจากมุม หรือลูกที่จุดโทษ
เครื่องป้องกันศีรษะรวมถึงหมวกที่ป้องกันแบบเต็มหน้า และมีที่คลุมตั้งแต่ใบหน้าถึงลำคอ คืออุปกรณ์ที่แนะนำสำหรับผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ
4.6 เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ป้องกันที่ทำให้เพิ่มขนาดร่างกายของผู้รักษาประตู หรือพื้นที่ในการป้องกัน ไม่อนุญาตให้ใช้
4.7 ไม้ที่ใช้แข่งขันต้องมีรูปร่างแบบดั้งเดิมทั้งด้ามจับ และความโค้ง มีด้านแบนอยู่ทางด้านซ้าย
ก. ไม้จะต้องราบเรียบ ไม่มีส่วนที่ขรุขระ หรือความคม
ข. รวมสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในไม้ ไม้จะต้องสามารถผ่านวงแหวนทดสอบที่มีเส้นผ่านจุดศูนย์กลาง 51 มิลลิเมตร
ค. ความโค้งตามแนวยาวของไม้จะต้องราบเรียบตามแนวยาวทั้งหมด และจะต้องผ่านความลึกของไม้ที่ 25 มิลลิเมตร
ง. ไม้จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดที่เห็นชอบโดยคณะกรรมการกฎกติกาของสหพันธ์ฮอกกี้นานาชาติ
4.8 ลูกฮอกกี้เป็นทรงกลม แข็ง และมีสีขาว (หรือสีที่มีการตกลงกันเพื่อให้แตกต่างกับพื้นสนามที่ใช้แข่งขัน)
ข้อกำหนดและรายละเอียดของไม้, ลูก, และอุปกรณ์ของผู้รักษาประตูถูกแยกไว้ตอนท้ายของกติกาเล่มนี้
กติกาข้อที่ 5
การแข่งขันและผลการแข่งขัน (Match and result)
5.1 การแข่งขันประกอบด้วย 2 ครึ่งๆละ 35 นาที และพักระหว่างครึ่ง 5 นาที
ระยะเวลาแข่งขันอื่นๆ และช่วงเวลาพัก อาจตกลงกันระหว่างสองทีม ยกเว้นได้ถูกระบุในกฎระเบียบการแข่งขันโดยเฉพาะ
ถ้าเวลาการแข่งขันสิ้นสุดลงเพียงก่อนที่ผู้ตัดสินจะตัดสินใจ อนุญาตให้ผู้ตัดสินตัดสินใจได้ทันทีหลังจากเวลาสิ้นสุดในครึ่งเวลาแรกหรือสิ้นสุดการแข่งขัน
ถ้าเกิดเหตุการณ์บางสิ่งเกิดขึ้นก่อนที่จะจบครึ่งเวลาแรกหรือจบการแข่งขัน และต้องการคำปรึกษาระหว่างผู้ตัดสิน ความคิดเห็นบางครั้งอาจจะสิ้นสุดไปแล้วก็ตาม การปรึกษาของผู้ตัดสินควรเกิดขึ้นทันทีและกลับไปแก้ไขสถานการณ์ตามความเหมาะสม
5.2 ทีมที่ทำประตูได้มากกว่าคือผู้ชนะ ถ้าไม่มีทีมใดทำประตูได้ หรือทั้งสองทีมทำประตูได้เท่ากันผลการแข่งขันคือเสมอ
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการต่อเวลาพิเศษ และการแข่งขันยิงลูกที่จุดโทษ ถูกรวบรวมอยู่ในระเบียบการแข่งขันของสหพันธ์ฮอกกี้นานาชาติ
กติกาข้อที่ 6
การเริ่มการแข่งขันและการเริ่มการเริ่มใหม่ (Start and re-start the match)
6.1 การเสี่ยงเหรียญ
ก. ทีมที่ชนะในการเสี่ยงมีสิทธิเลือกฝั่งประตูที่จะบุกในครึ่งเวลาแรก หรือเริ่มเกมกลางสนาม
ข. ถ้าทีมที่ชนะในการเสี่ยงเลือกฝั่งประตูที่จะบุกก่อนในครึ่งเวลาแรก คู่ต่อสู้จะได้เริ่มเกมกลางสนาม
ค. ถ้าทีมที่ชนะในการเสี่ยงเลือกเริ่มเกมกลางสนามก่อนในครึ่งเวลาแรก คู่ต่อสู้จะได้เลือกว่าจะบุกไปยังด้านใด
6.2 ทิศทางในการเล่นจะเปลี่ยนในครึ่งเวลาหลัง
6.3 เริ่มต้นส่งจากกลางสนาม
ก. เพื่อเริ่มเกมโดยผู้เล่นจากทีมที่ชนะในการเสี่ยงและเลือกที่จะเริ่มเกม หรือมิฉะนั้นโดยทีมคู่ต่อสู้
ข. เพื่อเริ่มเกมอีกครั้งในครึ่งเวลาหลัง โดยผู้เล่นทีมที่ไม่ได้เริ่มเล่นในครึ่งเวลาแรก
ค. หลังจากที่มีการทำประตูได้โดยผู้เล่นฝั่งตรงข้าม
6.4 การส่งลูกจากกลางสนาม
ก. เริ่มส่งจากตรงกลางของสนาม
ข. อนุญาตให้ส่งไปทิศทางใดก็ได้
ค. ผู้เล่นคนอื่นๆยกเว้นผู้เริ่มเล่นจะต้องอยู่ในแดนของตนเองที่ประกอบด้วยประตูและผู้เล่นฝ่ายรับของตนเอง
6.5 การเล่นบูลลี่เพื่อเริ่มการแข่งขันใหม่ เมื่อเวลาหรือการเล่นต้องหยุดลงเนื่องจากการบาดเจ็บหรือเหตุผลอื่นๆ และไม่มีการทำผิดกติกาของทีมใดทีมหนึ่ง
ก. จุดที่เล่นบูลลี่ต้องใกล้เคียงกับจุดที่การเล่นได้หยุดลง แต่ต้องไม่ใช่ในระยะ 15 เมตรจากเส้นด้านหลังสนาม และไม่อยู่ในระยะ 5 เมตรจากเขตทำประตู
ข. ลูกบอลอยู่ระหว่างผู้เล่นทั้งสองคนที่ซึ่งหันหน้าเข้าหากันโดยให้ประตูฝั่งที่ตนเองป้องกันอยู่ด้านด้านขวามือ
ค. ทั้งสองคนเริ่มเล่นโดยให้ไม้สัมผัสพื้นด้านขวาของลูกบอล และสัมผัสไม้ด้านแบนเหนือลูกบอล 1 ครั้ง หลังจากนั้นถึงอนุญาตให้ผู้เล่นเล่นลูกต่อไปได้
ง. ผู้เล่นคนอื่นๆต้องอยู่ห่างจากลูกบอลอย่างน้อย 5 เมตร
6.6 เมื่อการยิงลูกที่จุดโทษสิ้นสุด และไม่ได้ประตู ให้ฝ่ายรับได้เริ่มเล่นโดยเล่นลูกกินเปล่าในระยะ 15 เมตร ด้านหน้าตรงกลางเขตทำประตู
กติกาข้อที่ 7
ลูกบอลออกนอกสนาม (Ball outside the field)
ลูกบอลจะออกจากการเล่นในสนามต่อเมื่อผ่านเส้นข้างสนามหรือเส้นด้านหลังสนามโดยสมบูรณ์
การเล่นจะเริ่มใหม่โดยผู้เล่นทีมที่ไม่ได้สัมผัสบอลหรือเล่นเป็นคนสุดท้ายก่อนที่บอลจะออกจากสนาม
เมื่อบอลออกจากสนามด้านข้าง การเล่นจะเริ่มใหม่ยังจุดที่บอลผ่านเส้นด้านข้างออกไป
เมื่อบอลออกจากสนามจากเส้นด้านหลังสนาม และไม่มีการได้ประตูเกิดขึ้น
ก. ถ้าบอลออกเส้นด้านหลังสนามโดยผู้เล่นฝ่ายรุก ให้ฝ่ายรับเริ่มเล่นโดยเล่นลูกกินเปล่าในระยะ 15 เมตรจากเส้นออกด้านหลังสนาม และตรงกับจุดที่ลูกออก
ข. ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับ, ผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษไม่ได้เจตนาทำลูกออกเส้นด้านหลัง ให้เริ่มเล่นตรงเส้นระยะ 5 เมตรจากมุมสนามขึ้นมาตามเส้นข้างฝั่งที่ลูกออก
ค. ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับ, ผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษเจตนาทำลูกออกเส้นด้านหลัง ให้เริ่มเล่นด้วยลูกโทษจากมุม
กติกาข้อที่ 8
วิธีการได้ประตู (Method of scoring)
จะได้ประตูต่อเมื่อ
ก. ลูกบอลจะต้องถูกเล่นโดยผู้เล่นฝ่ายรุก หรือสัมผัสไม้ หรือร่างกาย ของผู้เล่นฝ่ายรับ ในเขตทำประตู
ข. หลังจากการกระทำทั้งสองข้างบนนี้ ลูกบอลไม่ได้ออกนอกเขตทำประตูก่อนที่จะส่งบอลข้ามเส้นประตูและอยู่ใต้คานประตูอย่างสมบรูณ์
กติกาข้อที่ 9
ข้อปฏิบัติในการเล่นของผู้เล่น (Conduct of play: players)
ผู้เล่นทุกคนถูกคาดหวังให้ทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบตลอดเวลา
เป็นการแข่งขันระหว่างสองทีมที่มีผู้เล่นข้างละไม่เกิน11คนในสนามตลอดเวลา
9.2 ผู้เล่นในสนามจะต้องถือไม้อยู่ในมือและไม่เล่นในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
ผู้เล่นจะต้องไม่ยกไม้ข้ามศีรษะคู่ต่อสู้
ผู้เล่นจะต้องไม่ สัมผัส จับ ถือ หรือรบกวน ผู้เล่นคนอื่นตลอดจนไม้ และเสื้อผ้า
ผู้เล่นจะต้องไม่แสดงอาการขู่ หรือขัดขวางผู้เล่นคนอื่น
ผู้เล่นจะต้องไม่เล่นลูกด้วยหลังไม้
ผู้เล่นจะต้องไม่ตีลูกอย่างรุนแรงด้วยสันของไม้
การเล่นด้วยสันของไม้อนุญาตให้ทำได้คือ การเล่นด้านหน้าไม้ในลักษณะควบคุมลูกในการเข้าแย่งบอล, การทำให้บอลลอยขึ้นที่สามารถควบคุมลูกได้ให้บอลข้ามไม้ของคู่ต่อสู้ หรือข้ามตัวผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษที่นอนอยู่กับพื้น หรือใช้ในการผลักบอลในระยะไกลโดยให้ไม้อยู่ติดกับพื้น
การใช้สันของไม้ด้านหลังมือเป็นการพัฒนาทางด้านเทคนิคการเล่น และเป็นการเล่นที่ถือว่าอันตราย
ผู้เล่นจะต้องไม่เล่นลูกบอลด้วยส่วนใดส่วนหนึ่งของไม้เมื่อบอลอยู่สูงกว่าระดับไหล่ ยกเว้นการป้องกันประตูของฝ่ายรับโดยการหยุดหรือเปลี่ยนทางลูก
เมื่อป้องกันลูกบอลบนเส้นประตูผู้เล่นฝ่ายรับจะไม่ถูกลงโทษ ถ้าไม้ของเขาไม่เคลื่อนไหวหรือเคลื่อนที่ไปยังลูกบอลขณะที่พยายามที่จะหยุดหรือเปลี่ยนทางลูกยิงประตู ถ้าลูกบอลถูกตีหรือเล่นเหนือกว่าหัวไหล่อย่างชัดเจน และลูกนั้นไม่เป็นประตู ฝ่ายรุกจะได้ลูกที่จุดโทษทันที
ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับพยายามเจตนาหยุดหรือเปลี่ยนทิศทางของลูกเหนือกว่าระดับไหล่ โดยที่ทิศทางของลูกไม่ได้ตรงเข้าหากรอบประตูคู่ต่อสู่จะได้เล่นลูกโทษจากมุม และไม่ใช่ลูกที่จุดโทษ
ถ้าการเล่นที่อันตรายมีผลหลังจากการหยุดบอลหรือเปลี่ยนทิศทางบอลตามกติกา ฝ่ายรุกจะได้เล่นลูกโทษจากมุม
ผู้เล่นจะต้องไม่เล่นลูกที่อันตราย หรืออาจก่อให้เกิดอันตราย
ลูกที่ถือว่าอันตราย เมื่อมันเป็นสาเหตุของการหลีกเลี่ยงการกระทำที่ถูกต้องของผู้เล่น
การลงโทษจะเกิดขึ้นในจุดที่การเล่นอันตรายเกิดขึ้น
ผู้เล่นจะต้องไม่เจตนาทำลูกให้ลอยพ้นจากพื้นจากการตี ยกเว้นการทำประตู
การตีลูกบอลให้ลอยขึ้นจากพื้นต้องได้รับการตัดสินอย่างชัดเจนว่าลูกนั้นลอยขึ้นโดยเจตนาหรือไม่ มันจะไม่ใช่ความผิดที่ลูกนั้นจะลอยขึ้นโดยไม่เจตนาจากการตี รวมถึงจากลูกกินเปล่าที่ใดก็ได้ในสนาม ยกเว้นมันเป็นลูกที่อันตราย
ถ้าลูกบอลถูกทำให้ลอยเหนือไม้ของคู่ต่อสู้ หรือร่างกายที่อยู่บนพื้น แม้จะอยู่ในเขตทำประตูก็จะได้รับอนุญาต นอกจากจะตัดสินให้เป็นลูกที่อันตราย
ผู้เล่นได้รับอนุญาตให้ทำให้ลูกบอลลอยพ้นจากพื้นได้ในการเล่นลูกตวัด หรือลูกตักไม่ใช่ลูกที่อันตราย, ลูกตวัด หรือลูกตักที่มีผลต่อฝ่ายตรงข้ามในระยะ 5 เมตรลูกนั้นถือว่าเป็นลูกที่อันตราย, ถ้าผู้เล่นเจตนาวิ่งเข้าหาทิศทางการทำประตู หรือเข้าหาฝ่ายรุก โดยไม่พยายามเล่นลูกบอลด้วยไม้ของเขา ควรจะถูกลงโทษสำหรับการเล่นที่อันตราย
ผู้เล่นจะต้องไม่เข้าไปในระยะ 5 เมตรของคู่ต่อสู้ที่กำลังรับลูกที่ลอยตกลงมา และจะต้องรอให้ลูกนั้นถูกรับและควบคุมลูกลงสู่พื้นแล้วเท่านั้น
ผู้เล่นที่รับบอลเป็นคนแรกมีสิทธิที่จะเล่นบอล ถ้าไม่ชัดเจนว่าผู้เล่นคนใดที่จะรับบอล ผู้เล่นของทีมที่เล่นลูกยกจะต้องปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามรับลูก
ผู้เล่นจะต้องไม่เจตนาหยุด เตะ หยิบ ขว้าง หรือพาบอลด้วยส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
ไม่ใช่ความผิดเสมอถ้าลูกบอลสัมผัสกับเท้า, มือ หรือร่างกายของผู้เล่นในสนาม ผู้เล่นจะกระทำผิดกติกาถ้าเจตนาที่จะใช้เท้า. มือ หรือร่างกายเล่นลูกบอล หรือถ้าเขาขยับร่างกายของตนเองด้วยความตั้งใจที่จะหยุดลูก
ไม่ใช่ความผิดถ้าลูกบอลสัมผัสกับมือที่ถือไม้
ผู้เล่นจะต้องไม่กีดขวางการเล่นของคู่ต่อสู้ที่ซึ่งพยายามจะเล่นบอล
ผู้เล่นจะกีดขวางการเล่นถ้าเขา
– เข้าด้านหลังของคู่ต่อสู้
– รบกวนไม้ หรือร่างกายของคู่ต่อสู้
– ปกป้องลูกจากการเข้าแย่งบอลอย่างถูกกติกาด้วยไม้หรือส่วนอื่นๆในร่างกาย
ผู้เล่นที่รับลูกอนุญาตให้หันได้ทุกทิศทาง
ผู้เล่นที่ครอบครองลูกบอลอนุญาตให้เคลื่อนที่ไปทิศทางใดก็ได้ยกเว้นเข้าหาร่างกายของคู่ต่อสู้ หรือเข้าหาตำแหน่งระหว่างลูกบอลและคู่ต่อสู้ที่ซึ่งอยู่ในระยะการเล่นและพยายามที่จะเล่นบอล
ผู้เล่นที่วิ่งอยู่ด้านหน้าหรือกำบังคู่ต่อสู้เพื่อหยุดเขาไม่ให้เล่นบอลหรือพยายามที่จะเล่นบอลมันคือการกีดขวางการเล่น(การกำบังโดยบุคคลที่3) ยังสามารถใช้ได้กับผู้เล่นฝ่ายรุกที่วิ่งตัด หรือกำบังผ่ายรับ(รวมทั้งผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ)เมื่อมีการเล่นลูกโทษจากมุม
ผู้เล่นจะต้องไม่เข้าปะทะ ยกเว้นตำแหน่งที่พยายามจะเล่นบอลโดยปราศจากการสัมผัสถูกตัว
ผู้เล่นจะต้องไม่เจตนาเข้าไปในประตูคู่ต่อสู้ หรือวิ่งไปมาบริเวณหลังประตูทั้งสองฝั่ง
ผู้เล่นจะต้องไม่แลกเปลี่ยนไม้กันระหว่างการเล่นลูกโทษจากมุม และลูกที่จุดโทษ
ผู้เล่นจะต้องไม่โยนชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์ใดๆ บนพื้นสนาม, กับบอล, ผู้เล่นคนอื่น และกับผู้ตัดสิน
ผู้เล่นจะต้องไม่เจตนาถ่วงเวลา
กติกาข้อที่ 10
ข้อปฏิบัติในการเล่นของผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ
(Conduct of play: goalkeepers and player with goalkeeping privileges)
10.1 ผู้รักษาประตูที่สวมชุดป้องกันเต็มชุด หรืออย่างน้อยสวมเฉพาะเครื่องป้องกันศีรษะ เครื่องป้องกันขา และรองเท้าสำหรับเตะ จะต้องไม่ออกไปเล่นนอกเขต 23 เมตรในแดนของตัวเอง ยกเว้นการยิงลูกที่จุดโทษ
เครื่องป้องกันศีรษะผู้รักษาประตูจะต้องสวมใส่ตลอดเวลา ยกเว้นการยิงลูกที่จุดโทษ
10.2 ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ จะต้องไม่ออกไปเล่นนอกเขต 23 เมตรในแดนของตัวเองขณะที่สวมเครื่องป้องกันศีรษะ แต่ถ้าถอดหน้าเครื่องป้องกันศีรษะออกสามารถออกไปเล่นได้ทั้งสนาม
เครื่องป้องกันศีรษะผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษจะต้องสวมใส่ตลอดเวลา เมื่อป้องกันลูกโทษจากมุมหรือลูกที่จุดโทษ
10.3 เมื่อบอลอยู่ในเขตทำประตูของฝ่ายรับ และมีไม้อยู่ในมือ
ก. ผู้รักษาประตูที่สวมชุดป้องกันเต็มชุด อนุญาตให้ใช้ไม้ เท้า, เครื่องป้องกันขา, รองเท้าในการทำให้บอลเคลื่อนที่ และใช้ไม้, เท้า, รองเท้าสำหรับเตะ, ขา, เครื่องป้องกันขา หรือส่วนอื่นๆในร่างกายหยุด หรือเปลี่ยนทิศทางบอลได้ทุกทิศทาง รวมถึงทำให้ลูกข้ามเส้นออกด้านหลัง
ผู้รักษาประตูไม่อนุญาตให้เล่นในลักษณะที่อันตรายโดยการใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ที่ตนเองสวมใส่อยู่
ข. ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ อนุญาตให้ใช้ไม้, เท้า, ขา ในการทำให้บอลเคลื่อนที่ และใช้ไม้, เท้า, ขา หรือส่วนอื่นๆในร่างกายหยุด หรือเปลี่ยนทิศทางบอลได้ทุกทิศทาง รวมถึงทำให้ลูกข้ามเส้นออกด้านหลัง
ค. ผู้รักษาประตูที่สวมชุดป้องกันเต็มชุด และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ อนุญาตให้ใช้แขน, มือ, และส่วนอื่นๆในร่างกายผลักบอลออกไป
การกระทำในกฎข้างต้นนั้นอนุญาตเพียงแค่ในส่วนของจังหวะในการป้องกันประตู หรือทำให้บอลเคลื่อนที่ออกจากจังหวะการทำประตูของฝ่ายตรงข้าม ไม่อนุญาตให้ผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษทำให้บอลเคลื่อนที่โดยใช้กำลังจากแขน, มือ, หรือร่างกายที่ใช้ระยะทางยาวเกิน
10.4 ผู้รักษาประตูเต็มชุด และผู้เล่นรักษาประตูสิทธิพิเศษ ห้ามนอนทับลูก
10.5 เมื่อลูกบอลอยู่นอกเขตทำประตูที่ผู้รักษาประตูป้องกันอยู่ ผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ อนุญาตให้เล่นบอลได้เฉพาะไม้เหมือนกับผู้เล่นปกติในสนาม
ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษถือว่าเป็นผู้เล่นในสนามเมื่ออยู่นอกเขตทำประตูที่ตนเองป้องกันอยู่
กติกาข้อที่ 11
ข้อปฏิบัติของผู้ตัดสิน (Conduct of play: umpires)
ผู้ตัดสิน 2 คนควบคุมการแข่งขัน ควบคุมการเล่นให้เป็นไปตามกติกา และให้ความยุติธรรม
ผู้ตัดสินแต่ละคนมีความรับผิดชอบในการตัดสินใจครึ่งหนึ่งของสนามตลอดการแข่งขัน
ผู้ตัดสินแต่ละคนรับผิดชอบในการตัดสินใจในลูกกินเปล่าในเขตทำประตู, ลูกโทษจากมุม, ลูกที่จุดโทษ และการได้ประตูในครึ่งสนามที่ตนเองรับผิดชอบ
ผู้ตัดสินมีความรับผิดชอบต่อการบันทึกผลการได้ประตู, การให้ใบลงโทษ, และการพักการเล่น
ผู้ตัดสินมีความรับผิดชอบในเรื่องเวลาของการแข่งขันให้ใช้เวลาเต็มในการเล่น, แจ้งถึงการหมดเวลาทั้งในครึ่งเวลาแรกและครึ่งเวลาหลัง และการสิ้นสุดเวลาของการเล่นลูกโทษจากมุม ถ้าเวลานั้นได้ได้ถูกขยายออกไปเพราะการเล่นลูกโทษจากมุม
ผู้ตัดสินจะให้สัญญาณนกหวีดเพื่อ
เริ่มต้นและสิ้นสุดการแข่งขันในแต่ละครึ่งเวลา
เริ่มเล่นบูลลี่
ลงโทษผู้เล่น
เริ่มต้นและสิ้นสุดการยิงลูกที่จุดโทษ
ให้สัญญาณการได้ประตู
เริ่มเกมหลังจากมีการทำประตู
เริ่มเกมหลังจากการยิงลูกที่จุดโทษ เมื่อไม่มีประตูเกิดขึ้น
หยุดการแข่งขันสำหรับการเปลี่ยนผู้รักษาประตูเต็มชุด และเริ่มเกมเมื่อการเปลี่ยนตัวเสร็จสิ้น
หยุดการแข่งขันไม่ว่าเหตุผลใดๆ และเริ่มต้นใหม่
ให้สัญญาณเมื่อจำเป็น เมื่อลูกบอลผ่านเส้นทั้งลูกออกจากสนาม
ผู้ตัดสินจะต้องไม่สอนหรือโค้ชตลอดทั้งเกม
ถ้าลูกบอลสัมผัสกับผู้ตัดสิน, บุคคลอื่น หรือวัตถุใดๆในสนาม ให้เกมดำเนินต่อไป
กติกาข้อที่ 12
การลงโทษ (Penalties)
การได้เปรียบ: การลงโทษจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นหรือทีมถูกเอาเปรียบอย่างชัดเจนจากคู่ต่อสู้ที่ทำการละเมิดกติกา
ถ้าให้การลงโทษแล้วไม่เกิดการได้เปรียบของทีมที่ซึ่งไม่ได้ละเมิดกติกา การเล่นให้ดำเนินต่อไป
การได้ลูกกินเปล่า
การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายใดก็ตามในระหว่างเขต 23 เมตรทั้งสองฝั่ง
การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรุกภายในเขต 23 เมตรของฝ่ายรับ
การไม่เจตนาทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับนอกเขตทำประตู แต่อยู่ในเขต 23 เมตรของฝ่ายรับ
การได้ลูกโทษจากมุม
การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับในเขตทำประตู ซึ่งไม่ได้ขัดขวางโอกาสที่จะทำประตูของฝ่ายรุก
การเจตนาทำผิดกติกาในเขตทำประตูโดยผู้เล่นฝ่ายรับต่อคู่ต่อสู้ที่ซึ่งไม่ได้ครอบครองลูกบอลหรือมีโอกาสที่จะเล่นลูกบอล
การเจตนาทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับนอกเขตทำประตูแต่อยู่ภายในเขต 23 เมตรของฝ่ายรับ
การเจตนาทำให้ลูกบอลข้ามเส้นออกด้านหลังโดยผู้เล่นฝ่ายรับ
ผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษอนุญาตให้เปลี่ยนทิศทางลูกบอลด้วยไม้, เครื่องป้องกันต่างๆ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายในทิศทางใดก็ได้รวมทั้งเส้นออกด้านหลัง
เมื่อลูกบอลติดอยู่ในชุดหรืออุปกรณ์ของผู้เล่นฝ่ายรับขณะอยู่ในเขตทำประตู
การได้ลูกที่จุดโทษ
การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับในเขตทำประตูที่ซึ่งขัดขวางโอกาสในการทำประตู
การเจตนาทำผิดกติกาในเขตทำประตูโดยผู้เล่นฝ่ายรับต่อคู่ต่อสู้ที่ครอบครองบอลหรือมีโอกาสที่จะเล่นบอล
ผู้เล่นฝ่ายรับออกจากเส้นออกหลังหรือเส้นประตูก่อนสัญญาณหลายครั้งติดต่อกันในขณะที่ฝ่ายรุกเล่นลูกโทษจากมุม
ถ้ามีการทำผิดกติกาหรือผิดข้อปฏิบัติก่อนที่จะมีการลงโทษเกิดขึ้น
ลูกกินเปล่าจะเพิ่มระยะไปด้านหน้าอีก 10 เมตร
ลูกกินเปล่าที่ให้กับฝ่ายรุกไม่สามารถเพิ่มระยะเข้าไปในเขตทำประตูได้
การลงโทษที่สูงยิ่งขึ้น
ให้การลงโทษส่วนบุคคล
การได้เล่นลูกกินเปล่าอาจจะย้อนกลับมาให้อีกฝ่ายได้ ถ้าการทำผิดกติกาต่อมาถูกกระทำโดยฝ่ายที่ได้เปรียบในครั้งแรก
กติกาข้อที่ 13
วิธีการเล่นสำหรับการลงโทษต่างๆ (Procedures for taking penalties)
13.1 จุดที่เล่นลูกกินเปล่า
ก. ลูกกินเปล่าให้เล่นใกล้กับจุดที่เกิดเหตุ
ใกล้ หมายถึง การเล่นในระยะจุดที่เกิดการทำผิดกติกาเกิดขึ้น และต้องไม่ได้เปรียบจนมากเกินไป
จุดที่เล่นลูกกินเปล่าจะต้องตรงจุดที่เกิดเหตุมากที่สุดในเขต 23 เมตร
ข. ฝ่ายรุกได้เล่นลูกกินเปล่าในเขต 5 เมตรจากเขตทำประตู(เส้นประ) ให้นำลูกกลับไปตั้งบนเส้น 5 เมตรที่ใกล้เคียงที่สุด
ค. ฝ่ายรับได้เล่นลูกกินเปล่านอกเขตทำประตู แต่อยู่ในระยะ 15 เมตรจากเส้นหลัง ให้นำลูกขึ้นมาเริ่มเล่นในระยะ 15 เมตร และขนานกับเส้นข้างสนาม
13.2 ขั้นตอนการเล่นลูกกินเปล่า, การเริ่มเล่นจากลางสนาม และการส่งลูกเข้าเล่นจากข้างสนาม
ในส่วนต่างๆของระเบียบนี้ใช้บังคับตามความเหมาะสมกับการเล่นลูกกินเปล่า, การเริ่มเล่นจากลางสนาม และการส่งลูกเข้าเล่นจากข้างสนาม
ลูกบอลจะต้องอยู่นิ่งกับพื้น
คู่ต่อสู่จะต้องอยู่ห่างจากบอลอย่างน้อย 5 เมตร
ถ้าคู่ต่อสู้อยู่ในระยะ 5 เมตรจากลูกบอลจะต้องไม่รบกวน หรือพยายามที่จะเล่นลูกนั้น ถ้าคู่ต่อสู้ไม่ได้รบกวน หรือพยายามที่จะเล่นลูกนั้น ผู้ตัดสินจะให้การเล่นลูกกินเปล่านั้นดำเนินต่อไปต้องไม่ทำให้ช้า
ถ้าเป็นการเล่นลูกกินเปล่าภายในเขต 23 เมตรของฝ่ายรุก ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะต้องอยู่ห่างจากบอลอย่างน้อย 5 เมตร
ลูกบอลจะต้องเคลื่อนที่โดยการตี, ผลัก, งัด, หรือตักลูกเท่านั้น
ลูกบอลอาจลอยขึ้นจากพื้นทันทีด้วยการผลัก, งัด หรือตักลูก แต่ต้องไม่ใช่การเจตนาทำให้บอลลอยขึ้น อย่างตั้งใจด้วยการตี
การเล่นลูกกินเปล่าของฝ่ายรุกในเขต 23 เมตร ลูกบอลจะต้องไม่ถูกส่งเข้าเล่นภายในเขตทำประตูโดยตรง โดยบอลจะต้องถูกส่งไปอย่างน้อย 5 เมตร และสัมผัสกับผู้เล่นทีมหนึ่งทีมใดก่อนนอกเหนือจากผู้ที่เล่นลูกกินเปล่า
ถ้าผู้เล่นที่เล่นลูกกินเปล่ายังคงเล่นลูกต่อไป(ไม่มีผู้เล่นคนอื่นได้เล่นบอล)
ผู้เล่นคนนั้นอาจจะเล่นลูกบอลได้หลายๆครั้ง,
แต่ลูกบอลจะต้องเคลื่อนที่อย่างน้อย 5 เมตร,
ก่อนที่ผู้เล่นคนนั้นจะเล่นบอลเข้าไปในเขตทำประตูโดยการตีหรือผลักบอล
อีกทางเลือกหนึ่ง
ผู้เล่นอีกคนหนึ่งของทีมใดทีมหนึ่ง คนที่สามารถที่จะเล่นบอลอย่างถูกต้องจะต้องเปลี่ยนทิศทางบอล, ตี หรือผลักลูกบอลก่อนที่จะเข้าไปในเขตทำประตู
หลังจากที่ผู้เล่นคนนี้สัมผัสลูกบอล มันสามารถเล่นเข้าไปในเขตทำประตูโดยผู้เล่นคนอื่นๆรวมทั้งผู้เล่นคนที่เล่นลูกกินเปล่า
อนุญาตให้เล่นบอลสูงเหนือเขตทำประตู แต่ลูกบอลจะต้องตกลงนอกเขตทำประตู มีกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเล่นที่อันตรายว่าลูกนั้นไม่สามารถเล่นได้ภายในเขตทำประตูโดยการรบกวนขณะที่ลูกบอลลอยเหนือเขตทำประตู
13.3 การเล่นลูกโทษจากมุม
ลูกบอลจะวางบนเส้นด้านหลังสนามอย่างน้อย 10 เมตร จากเสาประตู ด้านที่ฝ่ายรุกเลือก
ฝ่ายรุกส่งลูกบอลเข้าเล่นโดยต้องไม่เจตนาทำลูกให้ลอยขึ้น
ฝ่ายรุกที่ส่งบอลเข้าเล่นจะต้องมีเท้าใดเท้าหนึ่งอยู่นอกสนาม
ฝ่ายรุกที่เหลือต้องอยู่ในสนาม นอกเขตทำประตูทั้งไม้, มือ และเท้าห้ามสัมผัสพื้นในเขตทำประตู
ไม่มีผู้เล่นฝ่ายรับและฝ่ายรุก นอกเหนือจากฝ่ายรุกที่ส่งบอลเข้าเล่นที่อนุญาตให้อยู่ในระยะ 5 เมตรจากลูกบอลเมื่อมีการผลักหรือตีลูก
ผู้เล่นฝ่ายรับไม่เกิน 5 คน รวมผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ จะต้องยืนอยู่หลังเส้นประตู ห้ามส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย และไม้สัมผัสในเขตทำประตู
ถ้าทีมฝ่ายรับเลือกป้องกันลูกโทษจากมุมโดยใช้ผู้เล่นในสนามทั้งหมด ไม่มีผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ผู้เล่นทั้งหมดจะต้องใช้ไม้เพียงอย่างเดียวในการป้องกันประตู
ผู้เล่นฝ่ายรับที่เหลือต้องยืนอยู่หลังเส้นกลางสนาม
ก่อนที่บอลจะถูกส่งเข้าเล่น ห้ามฝ่ายรุกและฝ่ายรับวิ่งออกจากเส้นเข้ามาในเขตทำประตูโดยเด็ดขาด
หลังจากการส่งบอลเข้าเล่นแล้วผู้เล่นที่ส่งบอลห้ามสัมผัสลูกอีกครั้ง จนกระทั้งลูกนั้นสัมผัสกับผู้เล่นคนอื่นแล้ว
จะทำประตูไม่ได้จนกว่าลูกบอลจะถูกส่งออกไปเล่นนอกเขตทำประตู
ถ้าการทำประตูครั้งแรกคือการตี ลูกบอลจะต้องผ่านเส้นประตูหรืออยู่ในเส้นทางที่มีผลที่ลูกจะข้ามเส้นประตูที่ความสูงไม่เกิน 460มม.(ความสูงของกระดานด้านหลังประตู) ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนทิศทางใดๆทำให้ลูกบอลเข้าประตู
ความต้องการของกฏระเบียบนี้ใช้บังคับแม้ว่าลูกบอลจะสัมผัสไม้ หรือร่างกายของฝ่ายรับก่อนการยิงครั้งแรก
ถ้าการยิงครั้งแรกเป็นการตี และลูกบอลสูงเกินไปที่จะข้ามเส้นประตู จะต้องถูกลงโทษถึงแม้ว่าลูกบอลต่อมาจะสัมผัสไม้หรือร่างกายของผู้เล่นอีกคน
ลูกบอลสามารถสูงเกิน 460 มม.ระหว่างลอยก่อนที่มันจะข้ามเส้นประตู โดยมีเงื่อนไขว่าบริเวณนั้นจะต้องไม่อันตรายและลูกบอลอาจจะลอยต่ำลงกว่า 460 มม.ก่อนที่จะข้ามเส้นประตู
“การกวาดลูก” ที่ซึ่งใช้การผลักบอลในระยะไกล หรือการเคลื่อนที่ของไม้ด้วยการกวาดก่อนที่จะสัมผัสกับลูกบอลถือว่าเป็นการตี
สำหรับการทำประตูครั้งที่สองและครั้งต่อๆไป ไม่จำกัดความสูงของลูก แต่ลูกนั้นจะต้องไม่อันตราย
ฝ่ายรับที่วิ่งเข้าหาวิถีลูกหรือเข้าหาผู้ยิง โดยไม่พยายามที่จะเล่นลูกบอลด้วยไม้จะต้องถูกลงโทษสำหรับการเล่นที่อันตราย
ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับที่วิ่งออกมาเพื่อป้องกัน ถ้าลูกโดนต่ำกว่าเข่าในระยะ 5 เมตร ฝ่ายรุกจะได้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้งหนึ่ง และถ้าลูกสัมผัสเหนือเข่าของผู้เล่นฝ่ายรับในท่าทางปกติ ฝ่ายรับจะได้ลูกกินเปล่า
กฎการเล่นลูกโทษจากมุมจะไม่ใช้ ถ้าลูกบอลเคลื่อนที่มากกว่า 5 เมตรจากเขตทำประตู
13.4 การแข่งขันจะเพิ่มเวลาขึ้นในช่วงครึ่งเวลาแรกและช่วงจบเกม เพื่อให้สิ้นสุดในการเล่นลูกโทษจากมุม หรืออาจจะตามมาด้วยลูกโทษจากมุมอีกครั้ง หรือลูกที่จุดโทษ
13.5 ลูกโทษจากมุมจะสิ้นสุดต่อเมื่อ
ก. มีการได้ประตู
ข. ฝ่ายรับได้ลูกกินเปล่า
ค. บอลถูกส่งออกไปนอกเขตยิงประตูเกิน 5 เมตร
ง. บอลถูกส่งข้ามออกไปเส้นด้านหลังสนาม และไม่ใช่การเล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
จ. กองหลังกระทำผิดกติกาซึ่งไม่มีผลต่อการได้ลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
ฉ. ฝ่ายรุกได้ลูกที่จุดโทษ
ช. ได้ลูกบูลลี่
ถ้าการเล่นหยุดลงเนื่องจากสาเหตุการบาดเจ็บ หรือเหตุผลอื่นๆระหว่างเล่นลูกโทษจากมุมในช่วงที่หมดเวลาไปแล้วในครึ่งแรกหรือครึ่งหลังและเป็นการบูลลี่ ลูกโทษจากมุมจะต้องเล่นใหม่อีกครั้ง
13.6 ลูกโทษจากมุมในช่วงหมดเวลาในครึ่งเวลาแรกและครึ่งเวลาหลังจะสิ้นสุดด้วยเช่นกันถ้าลูกบอลออกนอกเขตทำประตูเป็นครั้งที่สอง
13.7 การทำผิดกติการะหว่างการเล่นลูกโทษจากมุม
ผู้เล่นที่ส่งบอลเข้าเล่นจากเส้นออกด้านหลังไม่ได้มีเท้าอย่างน้อย 1 ข้างอยู่นอกสนาม ให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
การทำผิดกติกาใดๆของผู้เล่นที่ส่งบอลเข้าเล่นจากเส้นออกด้านหลัง ฝ่ายรับจะได้เล่นลูกกินเปล่า
ผู้เล่นฝ่ายรับข้ามเส้นประตูหรือเส้นออกด้านหลังก่อนได้รับอนุญาต ให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
ผู้เล่นฝ่ายรุกเข้าไปในเขตทำประตูก่อนได้รับอนุญาต ให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
การทำผิดกติกาอื่นๆของผู้เล่นฝ่ายรุก ฝ่ายรับจะได้เล่นลูกกินเปล่า
การเล่นลูกที่จุดโทษ
เมื่อมีการให้ลูกที่จุดโทษเวลาและการเล่นจะต้องหยุด
ผู้เล่นทุกคนในสนามยกเว้นผู้ยิงและผู้เล่นที่ป้องกันให้ยืนอยู่หลังเส้น 23 เมตร และต้องไม่รบกวนการเล่นลูกที่จุดโทษ
ลูกบอลจะต้องวางบนจุดโทษ
ก่อนที่จะยิงผู้ที่ยิงจะต้องยืนด้านหลังและอยู่ในระยะที่สามารถเล่นลูกบอลได้
ผู้เล่นที่ป้องกันคือผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษต้องยืนเท้าทั้งสองบนเส้นประตู และจะต้องไม่เคลื่อนเท้าออกนอกเส้นประตูจนกว่าลูกบอลได้ถูกเล่นแล้ว
ถ้าผู้เล่นที่ป้องกันคือผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษจะต้องสวมเครื่องป้องกันศีรษะ ถ้าเป็นผู้เล่นคนอื่นๆที่เป็นผู้เล่นในสนามจะต้องสวมหน้ากากในการป้องกัน
ถ้าทีมที่ป้องกันลูกที่จุดโทษเลือกที่จะเล่นเพียงแค่ผู้เล่นในสนาม และไม่มีผู้รักษาประตูสำรองหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษในการป้องกัน ผู้เล่นที่ป้องกันใช้ได้เพียงแค่ไม้ในการป้องกันประตู
ผู้ตัดสินจะให้สัญญาณนกหวีดต่อเมื่อผู้เล่นทั้งสองฝ่ายอยู่ในตำแหน่งที่พร้อม
ผู้เล่นที่ยิงลูกที่จุดโทษจะต้องไม่ยิงจนกว่าจะได้ยินสัญญาณจากผู้ตัดสิน
ผู้เล่นที่ยิงและผู้เล่นที่ป้องกันจะต้องไม่เจตนาทำให้การยิงนั้นช้า
ผู้ยิงจะต้องไม่หลอกล่อขณะยิงประตู
ผู้เล่นที่ยิงลูกที่จุดโทษต้องผลัก ตวัด หรือตักลูก และอนุญาตให้บอลลอยได้ทุกความสูง
การใช้”ลูกดึงหรือลากบอล”ไปกับพื้นก่อนยิงประตู ในลูกที่จุดโทษไม่อนุญาตให้ใช้
ผู้เล่นที่ยิงลูกที่จุดโทษจะต้องเล่นบอลเพียงแค่ครั้งเดียว และต้องไม่เข้าไปใกล้ทั้งบอลหรือผู้เล่นที่ป้องกันประตู
ลูกที่จุดโทษจะสิ้นสุดเมื่อ
ลูกนั้นได้ประตู
ลูกบอลยังอยู่ในเขตทำประตู, อยู่ในเครื่องป้องกันของผู้รักษาประตู, ลูกบอลถูกป้องกันโดยผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือออกนอกเขตทำประตู
13.10 การทำผิดกติการะหว่างการยิงลูกที่จุดโทษ
การยิงถูกกระทำก่อนสัญญาณนกหวีด และลูกนั้นเป็นประตู ให้ยิงลูกที่จุดโทษอีกครั้ง
การยิงถูกกระทำก่อนสัญญาณนกหวีด และลูกนั้นไม่เป็นประตู ให้ฝ่ายป้องกันได้เล่นลูกกินเปล่า
การทำผิดกติกาใดๆของผู้เล่นที่ยิง ให้ฝ่ายป้องกันได้เล่นลูกกินเปล่า
การทำผิดกติกาใดๆของผู้เล่นที่ป้องกัน รวมถึงการขยับขาข้างใดข้างหนึ่งก่อนที่ลูกบอลจะถูกยิง ให้ยิงลูกที่จุดโทษอีกครั้ง
ถ้าผู้เล่นที่ป้องกันประตูป้องกันลูกที่จะเป็นประตูได้แต่เคลื่อนเท้าข้างใดข้างหนึ่งก่อนที่บอลจะถูกเล่น ผู้เล่นคนนั้นจะต้องได้รับการเตือน(ใบเขียว) และถ้าทำผิดกติกาอีกครั้งจะต้องโดนพักการเล่น(ใบเหลือง)
ถ้าลูกนั้นเป็นประตูถึงแม้จะเป็นการทำผิดกติกาโดยฝ่ายป้องกัน ให้ลูกนั้นเป็นประตู
การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นที่ป้องกัน และลูกนั้นไม่เป็นประตู ให้ยิงลูกที่จุดโทษอีกครั้ง
การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรุกคนอื่นๆที่ไม่ใช่ผู้ยิง และลูกนั้นเป็นประตู ให้ยิงลูกที่จุดโทษอีกครั้ง
กติกาข้อที่ 14
การลงโทษส่วนบุคคล (Personal penalties)
14.1 สำหรับการทำผิดกติกาใดๆของผู้เล่นอาจจะ
ตักเตือนด้วยวาจา
เตือนโดยใช้ใบเขียว
พักการเล่นชั่วคราวอย่างน้อย 5 นาที (ใบเหลือง)
ระยะเวลาของการพักการเล่นของผู้เล่นในหรือนอกสนาม ทีมที่ทำผิดกติกาต้องเล่นโดยมีผู้เล่นน้อยกว่า 1 คน
พักการเล่นถาวร (ใบแดง)
การพักการเล่นตลอดเกม ทีมที่ทำผิดกติกาเล่นในเวลาที่เหลือโดยมีผู้เล่นน้อยกว่า 1 คน
การลงโทษส่วนบุคคลอาจได้รับมากไปกว่าโทษที่เหมาะสม
14.2 ผู้เล่นที่ถูกสั่งพักชั่วคราว ต้องออกไปนั่งพักในที่ที่กรรมการกำหนด จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสินที่ให้ใบลงโทษให้กลับเข้าไปเล่น
14.3 ผู้เล่นที่ถูกสั่งพักชั่วคราว อาจจะกลับไปฝั่งของตัวเองได้ในระหว่างพักครึ่งเวลา และกลับมานั่งต่อจนครบกำหนดเวลา
14.4 ระยะเวลาพักที่กำหนดไว้สามารถเพิ่มขึ้นได้สำหรับผู้เล่นที่ประพฤติผิดซ้ำขณะถูกพักการเล่น
14.5 ผู้เล่นที่ถูกสั่งพักถาวรจะต้องออกจากสนาม และพื้นที่โดยรอบสนาม
การทำหน้าที่ผู้ตัดสิน (Umpiring)
กติกาข้อที่ 1
วัตถุประสงค์ (Objective)
1.1 การตัดสินฮอกกี้เป็นงานที่ท้าทายความสามารถ และเป็นวิธีที่ดีที่ทำให้ผู้ตัดสินมีส่วนร่วมกับเกมแข่งขัน
1.2 ผู้ตัดสินสามารถให้การสนับสนุนเกมการแข่งขันได้โดย
ช่วยยกระดับมาตรฐานของเกมในทุกระดับ โดยทำให้มั่นใจว่าผู้เล่นปฏิบัติตามกฎกติกา
ทำให้มั่นใจว่าทุกเกมเล่นด้วยน้ำใจนักกีฬาที่ดีงาม
ช่วยเพิ่มความสนุกสนานของเกมสำหรับผู้เล่น, คนดู และคนอื่นๆ
1.3 วัตถุประสงค์ในการทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน
ความสม่ำเสมอ, ผู้ตัดสินต้องรักษาความเอาใจใส่ผู้เล่นอย่างสม่ำเสมอ
ความยุติธรรม, การตัดสินใจใดๆต้องทำโดยความรู้สึกถึงความยุติธรรม และความซื่อสัตย์
การเตรียมพร้อม, ไม่ว่าจะมีประสบการณ์ทำหน้าที่ผู้ตัดสินมานานขนาดไหน สำคัญที่สุดจะต้องมีการเตรียมพร้อมทุกเกม
การมีสมาธิ, การมีสมาธิในเกมจะต้องรักษาไว้ตลอดทั้งเกม อย่าให้สิ่งใดมากวนใจผู้ตัดสินได้
การเข้าถึง, การเข้าใจที่ดีต่อกติกาต้องนำมาประสานกับสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เล่น
การทำให้ดีกว่า, ผู้ตัดสินต้องมีเป้าหมายที่จะทำให้ดีขึ้นในทุกเกม
การเป็นธรรมชาติ, ผู้ตัดสินจะต้องเป็นตัวของตัวเอง และต้องไม่ลอกเลียนผู้อื่น
1.4 ผู้ตัดสินจะต้อง
มีความรู้ในกติกาฮอกกี้อย่างละเอียด และต้องระลึกไว้เสมอว่าความแม่นยำในกติกา และการตอบสนองที่ฉับไวเป็นสิ่งสำคัญ
สนับสนุน และส่งเสริมการเล่นที่ใช้ทักษะที่สูง, จัดการอย่างทันท่วงทีและหนักแน่นต่อความผิด และใช้บทลงโทษที่เหมาะสม
แสดงให้เห็นถึงการควบคุมการแข่งขัน และรักษาไว้ได้ตลอดทั้งเกม
ใช้เครื่องมือที่มีในการควบคุมนักกีฬา
ใช้กติกาในการให้ได้เปรียบมากสุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยให้เกมต่อเนื่องแต่ต้องควบคุมเกมได้ด้วย
กติกาข้อที่ 2
การใช้กติกา (Applying the rules)
2.1 ปกป้องผู้เล่นที่มีทักษะสูง และความผิดที่ลงโทษ
ความผิดที่ร้ายแรงจะต้องถูกตัดสินโดยทันที เช่น การที่เล่นอันตราย หรือการเล่นที่หยาบคายใดๆ จะต้องตัดสินได้รวดเร็ว และหนักแน่นในการแข่งขัน
การเจตนาทำผิดกติกาจะต้องลงโทษอย่างหนัก
ผู้ตัดสินจะต้องแสดงให้เห็นว่าถ้าผู้เล่นให้ความร่วมมือ, มีทักษะดี จะได้รับการปกป้อง และการแข่งขันจะถูกขัดจังหวะการเล่นเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น
2.2 การได้เปรียบ
การทำผิดกติกาทุกครั้งไม่จำเป็นจะต้องลงโทษ เมื่อผลประโยชน์ไม่ได้รับจากการกระทำผิดนั้น การขัดจังหวะที่ไม่จำเป็นของเกมการแข่งขันเป็นผลให้เกมไม่ต่อเนื่อง
เมื่อกติกาถูกละเมิดผู้ตัดสินจะต้องใช้การให้ได้เปรียบ ถ้าเป็นการลงโทษที่รุนแรงที่สุด
การครอบครองบอลไม่ได้หมายความว่าได้เปรียบ สำหรับการให้ได้เปรียบนั้นผู้เล่นหรือทีมที่ครอบครองบอลจะต้องสามารถทำให้การเล่นในจังหวะต่อไปของเขานั้นดีขึ้น
เมื่อมีการตัดสินใจที่จะเล่นได้เปรียบแล้ว โอกาสที่สองจะต้องไม่ถูกให้โดยย้อนกลับไปยังลงโทษอันเดิม
การคาดการณ์ล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญของความต่อเนื่องของเกม, การมองเลยออกไปจากการกระทำในขณะนั้น และตระหนักถึงการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของนักกีฬา
2.3 การควบคุม
การตัดสินใจจะต้องทำอย่างทันท่วงที, ในทางบวก, ชัดเจน และต่อเนื่อง
การตัดสินอย่างเข้มงวดในช่วงต้นเกมจะช่วยลดการกระทำผิดที่จะเกิดซ้ำๆในเกม
ไม่เป็นที่ยอมรับในกีฬาฮอกกี้สำหรับผู้เล่นที่ทำผิดกติกาโดยใช้วาจา ท่าทาง และทัศนะคติที่ไม่ดีต่อคู่ต่อสู้, ผู้ตัดสิน หรือเจ้าหน้าที่เทคนิคอื่นๆ ผู้ตัดสินต้องจัดการกับการกระทำดังกล่าวอย่างเข้มแข็ง ตามลำดับการเตือนคือ ด้วยวาจา, ตักเตือน(ใบเขียว) หรือพักชั่วคราว(ใบเหลือง) หรือพักถาวร(ใบแดง) ข้อควรระวังการเตือนและการสั่งพักผู้เล่นสามารถให้โดยแยกหรือรวมกับการลงโทษอื่น
การตักเตือนสามารถให้กับผู้เล่นได้โดยไม่ต้องหยุดเวลา
อาจเป็นไปได้แต่ไม่แนะนำให้ทำสำหรับผู้เล่นที่จะได้รับใบลงโทษใบเขียว 2 ใบ หรือใบเหลือง 2 ใบ ในการทำผิดกติกาที่สาเหตุต่างกัน อย่างไรก็ตามเมื่อการทำผิดกติกาที่ได้ใบลงโทษแล้วและถูกทำซ้ำ ใบลงโทษใบเดิมจะต้องไม่ถูกใช้อีกครั้ง และควรให้การลงโทษที่หนักขึ้น
เมื่อให้ใบเหลืองใบที่สอง ระยะเวลาในการพักควรเพิ่มขึ้นมากกว่าใบแรก
จะต้องชัดเจนในความแตกต่างระหว่างระยะเวลาในการพักของใบเหลืองสำหรับการทำผิดกติกาเล็กน้อยกับระยะเวลาสำหรับการทำผิดกติกาที่รุนแรง หรือการทำผิดกติกาโดยใช้ร่างกาย
เมื่อผู้เล่นเจตนามีพฤติกรรมที่รุนแรงต่อผู้เล่น, ผู้ตัดสิน และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ใบแดงจะต้องถูกให้โดยทันที
2.4 การลงโทษ
มีการลงโทษที่หลากหลาย
การลงโทษสองอย่างสามารถนำมาใช้ร่วมกันได้เพื่อจัดการกับความผิดที่กระทำซ้ำๆ
กติกาข้อที่ 3
ทักษะของผู้ตัดสิน (Umpiring skills)
3.1 หลักสำคัญของทักษะผู้ตัดสินคือ
การเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขัน
การประสานร่วมมือกันระหว่างผู้ตัดสิน
การเคลื่อนที่ และตำแหน่งการยืน
สัญญาณนกหวีด
สัญญาณมือ
3.2 การเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขัน
ผู้ตัดสินจะต้องมีการเตรียมตัวอย่างดีในแต่ละเกมโดยมาถึงสนามในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ก่อนการแข่งขันผู้ตัดสินทั้งสองคนจะต้องตรวจสอบความพร้อมของสนาม เส้น, ประตู และตาข่าย ตรวจสิ่งที่อาจจะเป็นอันตรายต่อการเล่นของอุปกรณ์และอุปกรณ์สนาม
ผู้ตัดสินทั้งสองคนจะต้องสวมเสื้อที่มีสีคล้ายกัน และต้องแตกต่างกับทีมที่แข่งขันทั้งสองทีม
สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ
สวมรองเท้าที่เหมาะกับสภาพสนาม และช่วยในการเคลื่อนไหว
อุปกรณ์ของผู้ตัดสินประกอบด้วย หนังสือกติกา(ปัจจุบัน), นกหวีดที่มีคุณภาพเสียงที่ดี, นาฬิกาจับเวลา, ใบลงโทษ และอุปกรณ์ที่ใช้บันทึกรายละเอียดของเกม
3.3 การประสานร่วมมือกันระหว่างผู้ตัดสิน
การร่วมมือกันและการช่วยเหลือกันระหว่างผู้ตัดสินเป็นสิ่งจำเป็น
ก่อนที่จะลงตัดสิน ผู้ตัดสินจะต้องปรึกษาหารือ และตกลงวิธีที่จะลงไปตัดสินและช่วยเหลือกัน การสื่อสารกันด้วยสายตาระหว่างผู้ตัดสินจะต้องได้รับการฝึกฝนและทำอย่างสม่ำเสมอ
ผู้ตัดสินจะต้องรับผิดชอบ และพร้อมที่จะช่วยเหลือ เมื่อผู้ตัดสินคู่ไม่สามารถจะมองได้เห็นเหตุการณ์หรืออยู่ในตำแหน่งที่มองได้ยาก ผู้ตัดสินจะต้องเตรียมพร้อมที่จะข้ามเส้นกลางสนาม และไปไกลเท่าที่จะทำได้ในฝั่งของผู้ตัดสินคู่ เพื่อช่วยเหลือและสร้างความมั่นใจให้กับคู่
ผู้ตัดสินทั้งสองคนจะต้องทำการบันทึกผู้ทำประตู และผู้ที่ได้รับใบลงโทษ และยืนยันหลังจบเกม
การเคลื่อนที่ และตำแหน่งการยืน
ผู้ตัดสินจะต้องมีการเคลื่อนที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่าย เพื่อที่จะเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมได้ตลอดทั้งเกม
ผู้ตัดสินที่ยืนนิ่งกับที่จะไม่สามารถเห็นการเล่นของผู้เล่นได้อย่างชัดเจนพอสำหรับการตัดสินใจที่ถูกต้อง
สมรรถภาพดี, การเคลื่อนที่ที่ดี และการยืนตำแหน่งที่เหมาะสม จะทำให้ผู้ตัดสินมีสมาธิที่ดีในเกมการแข่งขัน และในการตัดสินใจ
ผู้ตัดสินแต่ละคนจะทำหน้าที่เป็นส่วนใหญ่ในครึ่งสนามที่เส้นกลางสนามอยู่ด้านซ้ายของตัวเอง
โดยทั่วไปตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของผู้ตัดสินคือด้านบน และด้านขวาของผู้เล่นฝ่ายรุก
สำหรับการเล่นบริเวณกลางสนาม และเขตทำประตู ผู้ตัดสินควรยืนใกล้เส้นออกข้าง
เมื่อเกมเล่นในเขตทำประตู ผู้ตัดสินจะต้องเคลื่อนที่มากขึ้นโดยเข้ามาด้านในสนามและออกจากกระดานด้านข้างสนาม เมื่อจำเป็นจะต้องเข้ามาในเขตทำประตูของตัวเองเพื่อจะช่วยในการมองเห็นการทำผิดกติกาที่สำคัญๆ และการทำประตู
การเล่นลูกโทษจากมุม หลังจากที่ลูกบอลออกนอกสนามไปแล้วผู้ตัดสินจะต้องเดินขึ้นมายังตำแหน่งที่จะช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนกับการเล่นที่กำลังจะเกิดขึ้น
การเล่นลูกที่จุดโทษ ผู้ตัดสินจะต้องยืนด้านหลังฝั่งขวามือของผู้เล่น
ผู้ตัดสินจะต้องระวังอย่าให้ตำแหน่งการยืนหรือวิ่งของตนเองรบกวนความต่อเนื่องของเกม
ผู้ตัดสินจะต้องหันหน้าเข้าหาผู้เล่นตลอดเวลา
3.5 สัญญาณนกหวีด
สัญญาณนกหวีดเป็นหัวใจหลักในการสื่อสารกับผู้เล่น และคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเกม
สัญญาณนกหวีดจะต้องมีเสียงดังชัดเจนสำหรับคนอื่นๆในสนามที่จะได้ยิน และไม่ได้หมายถึงว่าต้องให้สัญญาณยาวดังตลอดเวลา
ระดับของเสียงนกหวีดและระยะเวลาในการเป่าจะต้องแตกต่างกัน เพื่อบอกถึงการทำผิดกติกาที่ร้ายแรงกับผู้เล่น
3.6 สัญญาณมือ
สัญญาณมือจะต้องชัดเจน และแสดงยาวนานพอเพื่อให้ผู้เล่นและผู้ตัดสินอีกคนได้เห็นการตัดสิน
จะต้องใช้ท่าสัญญาณที่เป็นมาตรฐานเท่านั้น
การให้สัญญาณควรยืนนิ่งกับที่จะดีที่สุด
การชี้ทิศทางการเล่นไม่ควรชี้ข้ามร่างกายตัวของตัวเอง
การแสดงสัญญาณการทำผิดกติกาหรือการตัดสินใดๆควรมองผู้เล่นที่ให้ มิฉะนั้นอาจจะมีการทำผิดกติกาที่มากขึ้น และอาจแสดงให้เห็นถึงการขาดความมั่นใจในตนเอง
กติกาข้อที่ 4
ท่าสัญญาณของผู้ตัดสิน (Umpiring signals)
เวลา
เริ่มเกม : ให้หันหน้าไปหาผู้ตัดสินอีกคนแล้วยกแขนข้างหนึ่งขึ้นให้สุด หันฝ่ามือออกจากตัว
หยุดเวลา : ให้หันหน้าไปหาผู้ตัดสินอีกคนและเหยียดแขนที่ไขว้ตัดกัน(รูปกากบาท)เหนือศีรษะ
เหลือเวลาแข่งขันอีก 2 นาที : นิ้วชี้ ชี้ขึ้นพร้อมยกแขนทั้งสองข้างขึ้นจนสุดแขน
เหลือเวลาแข่งขันมากกว่า 1 นาที : นิ้วชี้ ชี้ขึ้นพร้อมยกแขนข้างเดียวขึ้นจนสุดแขน
บูลลี่ หันฝ่ามือเข้าหากัน ขยับแขนขึ้นลงด้านหน้าตัวเอง
ข้อปฏิบัติในการเล่น
ท่าสัญญาณสำหรับข้อปฏิบัติในการเล่นจะต้องแสดงทันทีถ้ามีการสงสัยของ ผู้เล่น
การเล่นที่อันตราย : วางมือเฉียงทแยงมุมตัดผ่านหน้าอก
การประพฤติผิดหรืออารมณ์รุนแรง : หยุดเวลา คว่ำมือทั้งสองลงด้านหน้าลำตัวข้างขยับแขนขึ้นลงช้าๆ
ลูกบอลสัมผัสเท้า : ยกเข่าขึ้นเล็กน้อย แล้วชี้ที่บริเวณต้นขา
บอลลอยสูง : หันฝ่ามือเข้าหากันห่างประมาณ 15 ซม. ขนานกับพื้นด้านหน้าตัวเอง
กีดขวางการเล่น : ยกแขนตัดกันเป็นรูปกากบาทด้านหน้าลำตัว
ใช้ไม้กีดขวางการเล่น : เหยียดแขนข้างหนึ่งเฉียงลงไปที่พื้นด้านหน้าตัวเอง แล้ววางมืออีกด้านข้างบน
ระยะห่าง 5 เมตร : ยกแขนขึ้นข้างหนึ่ง หันด้านหน้ามือออกและนิ้วทั้ง 5 กางออก
4.6 การลงโทษ
การได้เปรียบ : ยกแขนขึ้นข้างหนึ่งสูงมากกว่าระดับไหล่ในทิศทางที่ทีมที่ได้เปรียบพาลูกไป
ลูกกินเปล่า : ชี้ทิศทางด้วยแขนข้างหนึ่งที่ยกขนาดกับพื้น
ลูกกินเปล่าเพิ่มระยะอีก 10 เมตร : กำมือแล้วยกแขนขึ้นข้างหนึ่ง
ลูกโทษจากมุม : ชี้แขนทั้งสองข้างขนานกับพื้นไปที่ประตู
ลูกที่จุดโทษ : ชี้มือข้างหนึ่งไปที่จุดโทษ มืออีกข้างชี้ขึ้นข้างบน เหยียดแขนให้สุด สัญญาณนี้หมายถึงหยุดเวลาเช่นเดียวกัน
ขนาดสนามและอุปกรณ์ (Field and Equipment specifications)
กติกาข้อที่ 1
สนามและอุปกรณ์สนาม (Field and field equipment)
1.1 สนามเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาว 91.40 เมตร และกว้าง 55 เมตร
พื้นผิวการเล่นจะต้องมีพื้นที่เหลือรอบด้าน ด้านหลังอย่างน้อย 2 เมตร และด้านข้างอย่างน้อย 1 เมตร รวมทั้งพื้นที่ที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง ด้านหลัง 3 เมตร และด้านข้าง 2 เมตร (พื้นที่ต้องการขั้นต่ำทั้งหมดคือด้านหลัง 3+2 = 5 เมตร ด้านข้าง 2+2 = 4 เมตร)
1.2 เครื่องหมายบนสนาม
ไม่มีเครื่องหมายหรือเส้นใดๆที่นอกเหนือกติกานี้บนสนาม
เส้นกว้าง 75 มม. และจะต้องเห็นได้ชัดเจนตามแนวยาวของมัน
เส้นออกด้านข้าง และเส้นออกหลัง และเส้นต่างๆบนสนามเป็นส่วนหนึ่งของสนาม
เส้นต่างๆบนสนามต้องเป็นสีขาว
1.3 เส้นและเครื่องหมายอื่นๆบนสนาม
เส้นด้านข้างสนาม : มีความยาว 91.40 เมตร
เส้นออกด้านหลังสนาม : มีความยาว 55.00 เมตร
เส้นประตู : เป็นส่วนหนึ่งของเส้นออกด้านหลังอยู่ระหว่างเสาประตูทั้งสอง
เส้นกลางสนาม : เส้นที่ตัดผ่านกลางสนาม
เส้น 22.90 เมตรตัดผ่านสนาม 22.90 เมตรจากแต่ละเส้นออกด้านหลังโดยวัดจากขอบนอกของเส้นในแต่ละด้าน
พื้นที่ล้อมรอบรวมทั้งเส้น 22.90 เมตร เกี่ยวข้องกับเส้นออกด้านข้างและเส้นออกด้านหลัง เรารู้จักกันในชื่อเส้น 23 เมตร
เส้น 300 มม.(30ซม.) ด้านนอกของสนามบนเส้นออกข้างในแต่ละด้าน อยู่แนวเดียวกับเส้น 14.63 เมตร(เส้นเขตทำประตู) และขนานกับขอบด้านนอกเส้นออกด้านหลัง
เส้น 300 มม.(30ซม.) ด้านนอกของสนามบนเส้นออกข้างในแต่ละด้าน อยู่ห่างจากเส้นออกหลังตามแนวเส้นออกข้าง 5 เมตร และขนานกับขอบด้านนอกเส้นออกด้านหลัง
เส้น 300 มม.(30ซม.) ด้านนอกของสนามบนเส้นออกด้านหลังทั้งสองด้าน อยู่ออกจากขอบนอกประตูทั้งสองด้าน 5 เมตร และ 10 เมตร
เส้น 150 มม.(15ซม.) ด้านนอกของสนามบนเส้นออกด้านหลังทั้งสองด้าน 1.83 เมตรจากตรงกลางของเส้นออกด้านหลัง วัดจากขอบที่ใกล้ที่สุดของเส้นนี้
จุดของจุดโทษ 150 มม.(15ซม.) อยู่ด้านหน้ากึ่งกลางของประตูในแต่ละด้าน 6.40 เมตรจากขอบด้านในของเส้นประตู
1.4 เขตทำประตู
เส้น 3.66 เมตร ขนานกับเส้นออกด้านหลัง เส้นนี้อยู่ในสนามจุดศูนย์กลางของเส้นอยู่ตรงกับจุดศูนย์กลางของเส้นออกด้านหลัง ระยะห่างจากขอบด้านนอกของเส้น 3.66 เมตรกับขอบด้านนอกของเส้นออกด้านหลังคือ 14.63 เมตร
เส้นนี้ยังคงเป็นเส้นโค้งต่อไปทั้งสองด้านและบรรจบกับเส้นออกด้านหลังในรูปครึ่งวงกลม
เส้น 3.66 เมตร และส่วนโค้งเรียกว่าเส้นเขตทำประตู เขตที่ล้อมรอบโดยเส้นนี้เรียกว่าเขตทำประตู
เส้นประ ทำเครื่องหมายเริ่มจากขอบด้านนอกของเส้น ห่างจากขอบด้านนอกของเส้นเขตยิงประตู 5 เมตร เส้นประแต่ละเส้นเริ่มจากด้านบนเหนือเขตทำประตู แต่ละเส้นยาว 300 มม.(30 ซม.)
*ขอบเขตของ H และ I วัดจากเส้นประตูไม่ใช่จากเสาประตู
ระยะห่าง 5.00 เมตร และ 10.00 เมตรตามลำดับ
1.5 ประตู
เสาประตูสองเสาตามแนวตั้งร่วมกับคานประตูตามแนวนอน วางอยู่กึ่งกลางของเส้นออกด้านหลัง
เสาประตูและคานต้องมีสีขาว เป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก กว้าง 50 มม. และลึก50 – 75 มม.
เสาประตูต้องไม่สามารถทำให้สูงขึ้นตามแนวดิ่งตามความสูงของคานประตู และคานประตูต้องไม่สามารถขยายตามแนวนอนตามเสาประตู
ระยะห่างระหว่างขอบด้านในเสาประตูทั้งสองด้านคือ 3.66 เมตร และระยะห่างระหว่างขอบที่ต่ำที่สุดของคานประตูกับพื้นคือ 2.14 เมตร
ที่ว่างนอกสนามที่อยู่ด้านหลังของเสาและคานประตูจะถูกปิดด้วยตาข่าย ด้านลึกของประตู ด้านบนลึกจากคานประตูอย่างน้อย 0.90 เมตร และด้านล่างที่ติดกับพื้นลึกจากเสาประตูอย่างน้อย 1.20 เมตร
1.6 กระดานด้านข้าง และกระดานด้านหลัง
กระดานด้านข้างสูง 460 มม.(46ซม.) และยาวอย่างน้อย 1.20 เมตร
กระดานด้านหลังสูง 460 มม.(46ซม.) และยาว 3.66 เมตร
กระดานด้านข้างอยู่ติดกับพื้น ยึดติดกับด้านหลังของเสาประตู
กระดานด้านหลังอยู่ติดกับพื้น ขนานกับเส้นออกหลัง และยึดติดกับกระดานด้านข้าง
กระดานด้านข้าง และกระดานด้านหลัง ด้านในประตูจะต้องมีสีเข้ม
ตาข่าย
ขนาดใหญ่ที่สุด 45 มม.
ติดกับด้านหลังของเสาประตู และคานประตูเป็นช่วงๆไม่เกิน 150 มม.(15ซม.)
ตาข่ายห้อยลงด้านนอกของกระดานด้านข้างและกระดานด้านหลัง
ตาข่ายจะต้องมัดให้แน่นเพื่อป้องกันลูกบอลทะลุผ่านระหว่างเสาประตู, คานประตู, กระดานด้านข้าง และกระดานด้านหลัง
ตาข่ายต้องกระชับแต่ไม่หลวมเพื่อป้องกันการกระดอนของลูกบอล
ขนาดของประตู
เสาธง
เสาธงความสูงระหว่าง 1.20 ถึง 1.50 เมตร
วางเสาธงที่มุมของสนามทุกมุม
ลักษณะของเสาธงจะต้องไม่อันตราย
ถ้าเป็นเสาที่ไม่สามารถงอได้จะต้องมีสปริงด้านล่าง
เสาธงที่ติดกับธง จะต้องกว้างและยาวไม่เกิน 300 มม.(30ซม.)
กติกาข้อที่ 2
ไม้ฮอกกี้ (Stick)
จะทำการวัดทั้งหมดของไม้ และวัตถุอื่นๆที่มีการหุ้มหรือติดไปกับไม้ที่ใช้ในการแข่งขัน
ในข้อนี้จะระบุถึงคุณสมบัติของไม้ฮอกกี้ ซึ่งคุณสมบัติอื่นๆที่ไม่ได้ระบุไว้ในกติกาข้อนี้สหพันธ์ฮอกกี้ฯขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามไม่ให้นำไม้ที่เห็นว่าไม่ปลอดภัย หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายลงแข่งขัน
รูปร่างและขนาดของไม้จะถูกทดสอบโดยการวางด้านหน้าไม้ที่ใช้เล่นคว่ำลงกับพื้นที่ราบ ตามรูปที่ 3 และ 4 เส้น A, A1, B, B1 และ Y เส้นทั้งหมดขนานกัน และตั้งฉากกับเส้น C และ X
ไม้มีรูปร่างดั้งเดิม ทั้งหัวตลอดคนด้ามจับ
ก. ตำแหน่งของไม้ตามรูปที่ 3 และ 4 เส้น Y ลากผ่านตรงกลางตั้งแต่ด้านบนของด้ามจับ ; ด้ามจับของไม้เริ่มต้นจากเส้น C และต่อเนื่องไปตามทิศทางของเส้น Y+
ข. ฐานของหัวไม้สัมผัสเส้น X ; หัวของไม้เริ่มต้นที่เส้น X และสิ้นสุดที่เส้น C
ไม้ที่จะได้รับการตรวจสอบจะประกอบด้วยส่วนต่างๆที่เคลือบ ครอบคลุม หรือยึดติด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไม้ฮอกกี้
ข้อกำหนดอื่นๆของไม้ ตามคำอธิบายด้านล่างนี้
ก. “ราบเรียบ” หมายถึง ต้องไม่มีส่วนที่หยาบ หรือคม พื้นผิวต้องเรียบเป็นปกติ ไม่มีร่อง ไม่ร่น หรือเป็นสัน ต้องไม่มีขอบที่มีมุมที่เป็นรัศมีน้อยกว่า 3 มม.
ข. “แบน” หมายถึง ต้องไม่มีส่วนโค้งเว้า สูง หรือเป็นโพรง ที่มีรัศมีน้อยกว่า 2 มม. และแบนราบไปถึงขอบของไม้ที่มีรัศมีไม่น้อยกว่า 3 มม.
ค. “ต่อเนื่อง” หมายถึง ตลอดแนวของไม้จะต้องไม่ถูกรบกวนด้วยสิ่งใดๆ
ด้านที่ใช้เล่นทั้งหมดแสดงในรูปที่ 3 และ 4 รวมทั้งขอบของด้านนั้นๆ
จากด้ามจับไปยังหัวไม้ จะต้องราบเรียบและต่อเนื่อง ต้องไม่มีส่วนที่ไม่เรียบหรือไม่ต่อเนื่อง
ส่วนหัวไม้ต้องเป็นทรง ‘J’ หรือ ‘U’ มีรูปร่างปลายหงายหรือปลายเปิดซึ่งถูกจำกัดโดยเส้น C
ส่วนของหัวไม้ไม่มีข้อจำกัด ระหว่างเส้น C และ X ในทิศทาง X- หรือ X+
2.10 ส่วนหัวไม้จะต้องแบนบนด้านซ้ายมือเท่านั้น (ด้านที่ผู้เล่นถือไม้ให้ส่วนหัวไม้ชี้ตรงไปด้านหน้าของผู้เล่น ด้านที่แสดงในรูป)
2.11 ค่าเบี่ยงเบนนูนหรือเว้าจะต้องเรียบ และต่อเนื่อง สูงสุดไม่เกิน 4 มม.
การเบี่ยงเบนด้านของหัวไม้ที่ใช้เล่นได้รับการทดสอบโดยการวางสันด้านตรงผ่านด้านนี้ตรงส่วนใดๆตามหัวไม้ และใช้มาตรวัดความลึกวัดความโค้งเว้าด้านล่างตรงสันไม้ต้องไม่เกิน 4 มม
รอยยุบ หรือร่องต่างๆ ไม่อนุญาตให้ใช้ในเล่น
2.12 ด้านหน้าไม้ที่ใช้เล่นนั้น จะต้องราบเรียบต่อเนื่องตลอดพื้นผิว
2.13 การบิดทำให้ผิดรูปร่างตามแนวยาวของไม้ไม่อนุญาตให้ใช้ เช่น จุดตัดของระนาบประกอบด้วยด้านแบนที่ใช้ในการเล่น จะต้องขนานกับกับด้านแบนในส่วนของด้ามไม้ตามเส้นC-C
2.14 อนุญาตให้ส่วนของด้ามจับ โค้ง งอ ยื่นออกมาจากเส้น A แต่ไม่เกินเส้น B หรือ จับ โค้ง งอ ยื่นออกมาจากเส้น A1 แต่ไม่เกินเส้น B1
2.15 ความโค้งตามแนวยาวของไม้จะต้องราบเรียบต่อเนื่องตามแนวยาวทั้งหมด ต้องเกิดขึ้นตามแนวด้านหน้าหรือด้านหลังของไม้แต่ต้องไม่ทั้งสองด้าน และจำกัดความลึกที่ 25 มม. จุดสูงสุดต้องไม่ชิดกับฐานของหัวไม้(เส้น X ในรูปที่ 3) มากกว่า 200 มม. ความโค้งที่หลากหลายไม่อนุญาต
ไม้วางลงบนพื้นราบโดยให้หน้าไม้คว่ำลงตามธรรมชาติ(ตามรูปที่ 5) อุปกรณ์ที่แสดงในรูปที่ 5 คือที่ใช้ในการวัดโค้งและความลาดเอียง ที่ซึ่งวางอยู่บนพื้นระนาบที่ใช้ทดสอบ ปลายสูง 25 มม. จะต้องไม่ลอดผ่านอย่างสะดวกมากกว่า 8 มม.ในส่วนใดๆของไม้
2.16 สันไม้และด้านที่ไม่ใช้ในการเล่นจะต้องกลมและราบเรียบต่อเนื่อง ส่วนแบนของขอบหรือด้านหลังไม้ไม่อนุญาต
พื้นผิวที่เป็นคลื่น ขรุขระ ด้านหลังของด้ามจับอนุญาตให้ความลึกไม่เกิน 4 มม. และห้ามไม่ให้มีพื้นผิวที่เป็นคลื่น ขรุขระ ด้านหลังของหัวไม้
2.17 รวมทั้งส่วนประกอบใดๆที่ติดอยู่กับไม้ ไม้จะต้องลอดผ่านห่วงที่มีเส้นผ่านจุดศูนย์กลาง 51 มม.
2.18 น้ำหนักรวมของไม้จะต้องไม่เกิน 737 กรัม
2.19 ความเร็วของลูกต้องไม่มากกว่า 98% ของความเร็วหัวไม้ อยู่ภายใต้เงื่อนไขของการทดสอบ
ความเร็วของลูกจะถูกกำหนดขึ้นในการทดสอบมากกว่า 5 ครั้ง ที่ความเร็วของไม้ 80 กม./ชม. ในห้องปฏิบัติการซึ่งได้รับการรับรองจากสหพันธ์ฮอกกี้ฯ ความเร็วของลูกจะถูกคำนวณจากเวลาที่ลูกผ่านจุดสองจุด และแสดงเป็นอัตราส่วนกับความเร็วของไม้ที่ระบุไว้ สหพันธ์ฯได้อนุมติให้ใช้ลูกที่ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่อุณหภูมิ20ºC และความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ50%
2.20 ไม้จะต้องมีความยาวที่ราบเรียบ
ไม้ที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายไม่อนุญาตให้ลงเล่น
2.21 ไม้ที่ติดสิ่งต่างๆเพิ่มเติมอาจจะทำจากวัสดุอื่นๆที่ไม่ใช่ชิ้นส่วนโลหะหรือส่วนประกอบโลหะใดๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสมสำหรับจุดประสงค์การเล่นฮอกกี้ และไม่ได้เป็นอันตราย
2.22 การใช้เทปหรือเรซิ่นที่ได้รับอนุญาตโดยมีเงื่อนไขว่าพื้นผิวของไม้จะต้องราบเรียบ และตรงกับข้อกำหนดของไม้
กติกาข้อที่ 3
ลูกฮอกกี้ (Ball)
3.1 บอล
ลูกบอลเป็นทรงกลม
มีเส้นรอบวง ระหว่าง 224 มม. และ 235 มม.
น้ำหนักอยู่ระหว่าง 156 กรัม และ 163 กรัม
ทำจากวัสดุใดๆที่มีสีขาว (หรือสีที่มีการตกลงกันซึ่งต่างจากพื้นสนาม)
พื้นผิวราบเรียบ และแข็ง รอยขรุขระต้องได้รับอนุญาต
กติกาข้อที่ 4
อุปกรณ์ของผู้รักษาประตู (Goalkeeper’s equipment)
4.1 เครื่องป้องกันแขน
แต่ละชนิดมีความกว้างสูงสุด 228 มม. และมีความยาว 355 มม. เมื่อวางด้าน ฝ่ามือด้านแบนขึ้น
ต้องไม่มีการเพิ่มเติมสิ่งใดๆที่จะแทนไม้ เมื่อไม่มีไม้อยู่ในมือ
4.2 เครื่องป้องกันขา: แต่ละชนิดมีความกว้างสูงสุด 300 มม. เมื่ออยู่ในขาของผู้รักษาประตู
ขนาดของเครื่องป้องกันมือ และเครื่องป้องกันขา จะถูกวัดโดยใช้มาตรวัดที่มีขนาดเท่ากับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
ประกาศ เพิ่มเติมกติกาฮอกกี้ ประจำปี 2554
กติกาฮอกกี้ (เพิ่มเติม)
1.ใบเขียว พัก 2 นาที
– ในระหว่างช่วงเวลาที่ถูกพัก ทีมจะต้องเล่นโดยมีผู้เล่นน้อยกว่า1คน
– ผู้ตัดสินจะเริ่มเกมทันที หลังจากให้ใบเขียวแก่ผู้เล่น
– ผู้เล่นที่ได้รับใบเขียวจะต้องออกจากสนามทันที ถ้าผู้เล่นเจตนาขัดขวางหรือรบกวนการเล่นจะต้องได้รับการลงโทษเพิ่มเติมจากผู้ตัดสินตามกติกา
– การพัก 2 นาที จะเริ่มจับเวลาเมื่อนักกีฬานั่งลงบนเก้าอี้ข้างสนามแล้วเท่านั้น
– เวลา 2 นาทีจะถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่เทคนิคที่ปฏิบัติหน้าที่ในการแข่งขันเกมนั้นๆ
2.การทำผิดกติกาในการเล่นลูกโทษจากมุม
2.1 ก่อนที่บอลจะถูกส่งเข้าเล่น ห้ามผู้เล่นฝ่ายรุกคนอื่นนอกจากผู้ที่ส่งบอลเข้าเล่นเข้ามาในเขตยิงประตู และห้ามผู้เล่นฝ่ายรับข้ามเส้นกลางสนามและเส้นหลังเข้ามาในสนามเป็นอันขาด
2.2 ถ้าฝ่ายรับทำผิดกติกา (ยกเว้นผู้รักษาประตู) ผู้เล่นคนนั้นจะต้องขึ้นไปอยู่ที่เส้นกลางสนาม และไม่สามารถนำผู้เล่นคนอื่นมาทดแทนได้
2.3 ถ้าผู้รักษาประตูทำผิดกติกา ฝ่ายรับจะต้องเล่นโดยมีผู้เล่นน้อยกว่า1คน
2.4 ถ้าฝ่ายรุกทำผิดกติกา ผู้เล่นคนนั้นจะต้องขึ้นไปอยู่ที่เส้นกลางสนาม
2.5 ฝ่ายรุกที่ส่งบอลเข้าเล่นจากเส้นหลังจะต้องเล่นบอลจังหวะเดียวโดยไม่หลอกล่อหรือเจตนาทำให้ฝ่ายรับเสียจังหวะ ถ้าทำผิดกติกาจะต้องขึ้นไปอยู่ที่เส้นกลางสนาม และสามารถทดแทนได้ด้วยผู้เล่นที่อยู่รอบเขตยิงประตูเท่านั้น
3.การเล่นPenalty Shoot-out
3.1 ผู้เล่นฝ่ายละ5คน เล่น1ต่อ1 กับผู้รักษาประตู ผู้เล่น5คนจะต้องถูกส่งชื่อก่อนการเล่นโดยผู้จัดการทีมและเป็นผู้เล่นที่อยู่ในรายชื่อทีมในการแข่งขันเกมนั้นๆเท่านั้น
3.2 ผู้ตัดสินและเจ้าหน้าที่เทคนิคที่ปฏิบัติหน้าที่มีหน้าที่เลือกประตูหรือด้านที่ใช้ในการเล่น
3.3 ทีมที่ชนะในการเสี่ยงเหรียญจะได้เลือกว่าจะเล่นก่อนหรือป้องกันก่อน
3.4 ทีมที่ทำประตูได้มากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ
3.5 ในการเล่นPenalty Shoot-out ผู้เล่นคนอื่นๆรวมทั้งเจ้าหน้าที่ทีมที่มีรายชื่อในการแข่งขันเกมนั้นๆจะสามารถเข้ามาในสนามได้ในพื้นที่นอกเหนือเขต23เมตรที่ใช้ในการเล่นPenalty Shoot-out ส่วนผู้รักษาประตูทั้งสองฝ่ายจะอยู่บริเวณเส้นหลังนอกเขตยิงประตู ผู้เล่นที่เล่นPenalty Shoot-out เท่านั้นที่อนุญาตให้เข้ามาในเขต23เมตร
3.6 ผู้เล่นที่ถูกให้พักการแข่งขันโดยฝ่ายจัดฯ หรือได้รับใบแดงในเกมนั้นๆจะไม่สามารถเล่นPenalty Shoot-out ได้
3.7 การเล่นPenalty Shoot-out ให้ปฏิบัติดังนี้
3.7.1 ผู้รักษาประตู ให้ยืนหลังเส้นประตูระหว่างเสาทั้งสอง
3.7.2 บอลตั้งบริเวณหลังเส้น23เมตร ตรงข้ามกับกึ่งกลางของประตู
3.7.3 ผู้เล่นฝ่ายรุก ยืนหลังเส้น23เมตรใกล้กับลูกบอล
3.7.4 เมื่อผู้ตัดสินให้สัญญาณนกหวีด ผู้เล่นฝ่ายรุกและผู้รักษาประตูจึง สามารถเข้ามาในเขต23เมตรได้
3.7.5 Penalty Shoot-out จะสิ้นสุดเมื่อ
– เวลา 8 วินาทีจบลง
– ฝ่ายรุกทำประตูได้
– ฝ่ายรุกทำผิดกติกา
– ผู้รักษาประตูทำผิดกติกา ซึ่งจะต้องเล่นPenalty Shoot-outอีกครั้ง
– ผู้รักษาประตูเจตนาทำผิดกติกา ซึ่งผู้ตัดสินให้เป็นประตู
– บอลออกนอกสนามทั้งเส้นหลังประตู และเส้นข้างสนามรวมทั้งผู้รักษา ประตูเจตนาทำลูกออกเส้นหลังประตู
3.8 ระหว่างการเล่นPenalty Shoot-out ถ้าผู้เล่นฝ่ายรุกหรือผู้รักษาประตูได้รับใบเหลืองหรือใบแดงซึ่งจะถูกให้ออกจากการแข่งขันทันที และไม่สามารถทดแทนได้จากผู้เล่นที่อยู่นอกเหนือจากผู้เล่น5คนที่ส่งชื่อ
3.9 ระหว่างการเล่นPenalty Shoot-out ถ้าผู้รักษาประตูได้รับบาดเจ็บไม่สามารถเล่นต่อไปได้ จะสามารถทดแทนได้จากผู้เล่นที่ส่งชื่อเข้าแข่งขันในเกมนั้นๆเท่านั้น
3.10 ถ้ายังเสมอกันใน5คนแรกให้เล่นต่อในรอบที่สอง ทีมที่ทำประตูมากกว่าคู่ต่อสู้1ประตูจะเป็นฝ่ายชนะ
3.11 ผู้เล่นที่เล่นในรอบที่สองไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เล่นใน5คนแรก
3.12 ทีมที่ยิงก่อนในรอบแรก จะต้องเป็นฝ่ายรับก่อนในรอบที่สอง
กติกาการแข่งขันยิงลูกที่จุดโทษ
(PENALTY STROKE COMPETITION REGULATIONS)
ผู้เล่นจำนวน 5 คน ของทั้งสองทีม ที่ถูกเลือกโดยผู้จัดการทีมจากใบรายชื่อนักกีฬา แต่ต้องไม่รวมถึงผู้เล่นที่ถูก แบนออกจากการแข่งขันโดยฝ่ายจัดการแข่งขัน ลำดับการยิงให้ยิงตามลำดับ 1-5 ในใบส่งรายชื่อ
ระหว่างการแข่งขันยิงลูกที่จุดโทษนักกีฬา(ผู้เล่น และผู้รักษาประตู) ที่ถูกใบแดง จะต้องออกจากการแข่งขันทันที และไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้
ผู้ตัดสินจะเป็นผู้เลือกว่าจะใช้ประตูฝั่งใดในการยิงลูกที่จุดโทษ และโยนเหรียญเสี่ยงกับหัวหน้าทีมทั้งสองเพื่อ เลือกว่าฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายที่ยิงก่อน
ทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ
ในกรณีที่การยิงรอบแรกเสมอกันให้ใช้การยิงแบบ Sudden Death ในรอบที่สอง และจะต้องใช้ผู้เล่น 5 คนเดิมจากการยิงในรอบแรก ไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับการยิงในใบส่งรายชื่อ
ทีมที่ยิงประตูได้มากกว่าคู่ต่อสู้จากการเสมอกันจะเป็นฝ่ายชนะ การยิงในรอบ Sudden Death จะไม่มีการจำกัดจำนวนประตูที่ยิงได้ของแต่ละทีม
ถ้าหากทั้งสองทีมยังเสมอกันให้ยิง Sudden Death ในรอบที่สาม และตั้งแต่รอบที่สามเป็นต้นไปผู้จัดการทีมจะต้องเลือกผู้เล่น 5 คนใหม่ในทุกๆรอบ ไม่ซ้ำกับผู้เล่นที่ยิงไปแล้ว
ทีมที่เลือกยิงก่อนในรอบแรกจะต้องไม่ยิงเป็นทีมแรกในรอบ Sudden Death
ผู้จัดการทีม ผู้รักษาประตู และผู้เล่น 5 คนที่แข่งขันเท่านั้นที่มีสิทธิอยู่ในสนามในระหว่างการแข่งขันยิงลูกที่จุดโทษ โดยทั้งหมดนี้จะต้องอยู่นอกเขต 23 เมตร ยกเว้นผู้รักษาประตู และผู้เล่นที่กำลังแข่งขัน
ประกาศใช้ทุกรายการในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2554
คณะอนุกรรมการผู้ตัดสิน สมาคมฮอกกี้แห่งประเทศไทย
นิยามคำศัพท์ TERMINOLOGY
ผู้เล่น (PLAYER) หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ในทีม
ทีม (TEAM)ประกอบด้วยผู้เล่นสูงสุด 12คน เป็นผู้เล่นในสนาม 5คน และผู้เล่นสำรอง 7คน
ผู้เล่นในสนาม (FIELD PLAYER)หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ในสนามซึ่งไม่ใช่ผู้รักษาประตู
ผู้รักษาประตู (GOALKEEPER)หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันของแต่ละทีมที่อยู่ในสนาม ผู้ซึ่งสวมหรือใส่เครื่องป้องกันเต็มชุดประกอบด้วยอย่างน้อย เครื่องป้องกันศีรษะ, เครื่องป้องกันขา, รองเท้าสำหรับเตะ และผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้ใส่ ชุดถุงมือป้องกันประตู และเครื่องป้องกันอื่นๆ
ผู้เล่นในสนามที่เป็นผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ (FIELD PLAYER WITH GOALKEEPING PRIVILEGES) หนึ่งในผู้เล่นในสนามที่ไม่ได้สวมชุดผู้รักษาประตูเต็มชุด แต่เป็นผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ; ผู้เล่นนี้จะต้องใส่เสื้อสีที่แตกต่างชัดเจนจากคู่แข่งขันทั้งสองทีม
ฝ่ายรุก (ATTACK / ATTACKER) ทีมหรือผู้เล่นที่พยายามที่จะทำประตู
ฝ่ายรับ (DEFENCE / DEFENDER) ทีมหรือผู้เล่นที่พยามยามจะป้องกันประตู
เส้นด้านหลังสนาม (BACK-LINE) เส้นขอบด้านนอกที่สั้นที่สุด(22เมตร)
เส้นประตู (GOAL-LINE) เส้นออกด้านหลังสนามที่อยู่ระหว่างเสาประตู
กระดานด้านข้างสนาม (SIDE-BOARDS) กระดานประกอบด้วยความยาว (44เมตร) ตามขอบนอกของสนาม
เขตทำประตู (CIRCLE) พื้นที่วงกลมที่ล้อมรอบ ประกอบด้วยสองครึ่งของวงกลม และเส้นผ่านจุดศูนย์กลางวางทาบเส้นออกหลังที่ปลายสนามตรงกลางของเส้นออกหลังทั้งสองข้าง
การเล่นบอล – ผู้เล่นในสนาม (PLAYING THE BALL: FIELD PLAYER) หยุดบอล, เปลี่ยนทิศทางบอล หรือ พาบอลเคลื่อนที่ด้วยไม้
การผลัก (PUSH) การทำให้ลูกบอลเคลื่อนที่ไปกับพื้นโดยอาศัยการผลัก โดยไม้จะต้องอยู่ใกล้กับลูกในจังหวะเริ่มต้น และหลังจากที่ทำการผลักลูกออกไปแล้วทั้งลูกบอลและหัวไม้จะต้องอยู่กับพื้น
การตวัด (FLICK) การผลักลูกบอลโดยให้ลูกลอยเหนือพื้นสนาม
การตัก (SCOOP) การทำให้ลูกลอยขึ้นจากพื้นโดยใช้ด้านหัวไม้วางไว้ใต้ลูกบอลและใช้การเคลื่อนไหวโดยการยกหรืองัดบอลขึ้น
การตี (HIT) ไม่อนุญาตให้ใช้ในอินดอร์ฮอกกี้ การตีลูกโดยอาศัยการเคลื่อนที่โดยการเหวี่ยงไม้ไปกระทบกับลูกบอล
การยิงประตู (SHOT AT GOAL) การกระทำของผู้เล่นฝ่ายรุกที่พยายามที่จะทำประตูโดยการเล่นบอลตรงไปหาประตูจากภายในเขตยิงประตู ลูกบอลอาจจะไม่ตรงเข้าหาประตูแต่การกระทำยังถือว่าเป็นการยิงประตูถ้าผู้เล่นเจตนาที่จะทำประตู และลูกตรงเข้าหากรอบของประตู
ระยะของการเล่น (PLAYING DISTANCE) ระยะห่างที่อยู่ในระยะที่ผู้เล่นจะสามารถเข้าถึงลูกที่จะเล่นได้
การเข้าแย่งบอล (TACKLE) การกระทำเพื่อหยุดคู่ต่อสู้ที่ครอบครองบอล
การทำผิดกติกา (OFFENCE) การกระทำที่ขัดกับกติกา และอาจได้รับบทลงโทษจากผู้ตัดสิน
การขอเวลานอก (TIME –OUT) การขอเวลานอกคือการขัดจังหวะของเกม และในการแข่งขันผู้ที่สามารถขอเวลานอกได้คือหัวหน้าทีม และเจ้าหน้าที่ของทีม
การเล่นเกมฮอกกี้ในร่ม
กติกาข้อที่ 1
สนามแข่งขัน (Field of play)
สนามเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว 44.00 เมตร กว้าง 22.00 เมตร
แนะนำให้ใช้สนามที่เต็มขนาด สำหรับการแข่งขันในระดับประเทศหรือท้องถิ่นสามารถใช้สนามขนาดเล็กได้คือความยาว 36.00 เมตร และกว้าง 18.00 เมตร
กระดานข้างสนามคือเส้นกรอบด้านยาวของสนาม เส้นหลังสนามคือเส้นกรอบด้านสั้นของสนาม
เส้นประตูเป็นส่วนหนึ่งของเส้นหลังสนามซึ่งอยู่ระหว่างเสาทั้งสองข้าง
เส้นกลางสนามคือเส้นที่ตัดผ่านกึ่งกลางสนาม
พื้นที่ที่เรียกว่าเขตยิงประตู จะตั้งอยู่ภายในสนาม รอบประตู และอยู่ตรงกลางของเส้นออกหลังของทั้งสองฝั่ง
จุดโทษเส้นผ่านจุดศูนย์กลาง 100 มม. (10ซม.) อยู่ด้านหน้าจุดกึ่งกลางของประตูทั้งสองฝั่ง มีระยะห่างจากขอบในของเส้นประตู 7.00 เมตร
เส้นทั้งหมดในสนามมีความกว้าง 50 มม. (5ซม.) และเป็นส่วนหนึ่งของสนาม
ประตู ตำแหน่งของประตูอยู่ตรงกลางด้านนอกสนาม และสัมผัสกับเส้นหลัง
ที่นั่งของนักกีฬาสำรองของแต่ละทีมจะอยู่ด้านนอกด้านใดด้านหนึ่งของสนาม ในแต่ละครึ่งของการแข่งขันที่นั่งของนักกีฬาจะอยู่ฝั่งเดียวกับประตูที่ทีมตนเองป้องกัน
กติกาข้อที่ 2
ส่วนประกอบของทีม (Composition of teams)
จำนวนผู้เล่นสูงสุด 5 คนของแต่ละทีมที่มีส่วนร่วมตลอดการแข่งขัน
ถ้าจำนวนผู้เล่นมีมากกว่าที่กำหนดในสนาม จะต้องหยุดเวลาเพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง ผู้เล่นที่ควรได้รับการลงโทษคือหัวหน้าทีมที่ทำผิดระเบียบ การตัดสินใจดำเนินการก่อนที่จะหยุดเวลาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
การเริ่มเล่นโดยให้ฝ่ายตรงข้ามได้เล่นลูกโทษจากมุม
2.2 แต่ละทีมจะต้องมีผู้รักษาประตู, ผู้เล่นที่ทำหน้าที่เป็นผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือเล่นโดยใช้ผู้เล่นปกติอย่างใดอย่างหนึ่งในสนาม
แต่ละทีมอาจจะเริ่มเล่นโดย
ผู้รักษาประตู ซึ่งใส่สีเสื้อที่แตกต่าง และใส่ชุดป้องกันเต็มชุดประกอบด้วยอย่างน้อย เครื่องป้องกันศีรษะ, เครื่องป้องกันขา และรองเท้าสำหรับเตะ ผู้เล่นนี้จะถูกอ้างถึงในกติกานี้ว่าคือผู้รักษาประตู หรือ
ผู้เล่นในสนามที่ทำหน้าที่ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษสวมเสื้อสีที่แตกต่าง สำหรับผู้ที่สวมเฉพาะเครื่องป้องกันศีรษะ(ไม่ได้ใส่เครื่องป้องกันขา รองเท้าสำหรับเตะ หรือเครื่องป้องกันอื่นๆ) เมื่อบอลอยู่ในครึ่งสนามของตนเอง จะต้องสวมเครื่องป้องกันศีรษะเมื่อจะต้องป้องกันลูกโทษจากมุม และลูกที่จุดโทษ ผู้เล่นนี้จะถูกอ้างถึงในกติกานี้ว่าคือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือ
ผู้เล่นปกติ ผู้เล่นที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือใส่เสื้อสีแตกต่าง ผู้เล่นที่ไม่ได้สวมเครื่องป้องกันศีรษะ ยกเว้นหน้ากากป้องกันลูกในการป้องกันลูกโทษจากมุม และลูกที่จุดโทษ ผู้เล่นทุกคนสวมสีเสื้อเหมือนกัน
การเปลี่ยนตัวผู้เล่นตัวเลือกเหล่านี้กระทำเช่นเดียวกับการเปลี่ยนตัวผู้เล่นทั่วไป
แต่ละทีมจะได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนตัวจากจำนวนผู้เล่นสูงสุด12คนดังนี้
การเปลี่ยนตัวอนุญาตให้กระทำได้ทุกช่วงเวลาตลอดการแข่งขัน ยกเว้นช่วงเวลาที่ทีมใดทีมหนึ่งกำลังเล่นลูกโทษจากมุมจนกระทั่งการเล่นนั้นสิ้นสุดลง ในช่วงเวลาดังกล่าวจะอนุญาตให้มีการเปลี่ยนตัวได้เฉพาะอาการบาดเจ็บ หรือถูกสั่งให้พักการเล่น(ใบเขียว,ใบเหลือง)ของผู้รักษาประตูฝ่ายรับ, ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษของฝ่ายรับ หรือผู้เล่นฝ่ายรับ
ถ้าการเล่นลูกโทษจากมุมเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งก่อนการเล่นครั้งแรกจะสิ้นสุด การเปลี่ยนตัวจะอนุญาตให้เฉพาะจากอาการบาดเจ็บ หรือถูกสั่งให้พักการเล่นของผู้รักษาประตูของฝ่ายรับ หรือผู้เล่นฝ่ายรับที่เล่นเป็นผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ
ในการเล่นลูกโทษจากมุม ผู้รักษาประตูของฝ่ายรับ(สวมชุดป้องกันเต็มชุด)ที่ได้รับอาการบาดเจ็บหรือถูกสั่งให้พักการเล่น อาจจะเปลี่ยนตัวได้กับผู้รักษาประตูเต็มชุดหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ
ในการเล่นลูกโทษจากมุม ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษของฝ่ายรับได้รับบาดเจ็บ หรือถูกสั่งให้พักการเล่น สามารถเปลี่ยนตัวได้กับผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษอีกคนหนึ่ง และต้องไม่ใช่กับผู้รักษาประตู(สวมชุดป้องกันเต็มชุด)
ถ้าทีมที่มีเฉพาะผู้เล่นปกติ จะไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้จนกว่าการเล่นลูกโทษจากมุมจะสิ้นสุดลง
ถ้าผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ถูกสั่งให้พักการเล่น ทีมที่ถูกลงโทษจะต้องเล่นโดยมีจำนวนผู้เล่นในสนามน้อยกว่า
ไม่จำกัดจำนวนคนในการเปลี่ยนตัวแต่ละครั้ง และจำนวนครั้งในการเปลี่ยนตัวของผู้เล่นแต่ละคน
การเปลี่ยนตัวอนุญาตให้กระทำได้ต่อเมื่อผู้เล่นที่อยู่ในสนามออกจากสนามแล้วเท่านั้น
การเปลี่ยนตัวไม่อนุญาตให้กระทำกับผู้เล่นที่อยู่ระหว่างถูกลงโทษให้พักการเล่น
ระหว่างการพักชั่วคราว ทีมทีทำผิดกติกาจะต้องเล่นโดยมีผู้เล่นในสนามน้อยกว่า 1 คน สำหรับแต่ละการพักถาวร ทีมทีทำผิดกติกาต้องเล่นเวลาที่เหลือโดยมีผู้เล่นน้อยกว่า 1 คน
หลังจากสิ้นสุดการลงโทษให้พักการเล่น ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนตัวได้ทันทีโดยไม่ต้องลงไปในสนาม
ผู้เล่นจะต้องออกและเข้าสนามในการเปลี่ยนตัวในเขต 3 เมตรกลางสนาม
เวลาจะไม่หยุดให้ในการเปลี่ยนตัว
เวลาจะไม่หยุดในการเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูเต็มชุด รวมทั้งการบาดเจ็บของผู้รักษาประตูหรือถูกสั่งลงโทษให้พักการเล่น ถ้าจำเป็นให้การเล่นต่อเนื่องควรเล่นโดยมีผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษและสวมเสื้อสีต่างจากผู้เล่น หรือเล่นโดยใช้ผู้เล่นปกติ ระหว่างการเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูที่อยู่ระหว่างใส่หรือถอดเครื่องป้องกัน
2.4 ผู้เล่นปกติที่ซึ่งออกจากสนามสำหรับอาการบาดเจ็บ, การเปลี่ยนอุปกรณ์แข่งขัน หรือเหตุผลอื่นๆอนุญาตให้กลับเข้าไปในสนามในบริเวณเขต 3 เมตรกลางสนามด้านที่ใช้ในการเปลี่ยนตัว
2.5 ไม่มีผู้ใดนอกเหนือจากผู้เล่น, ผู้รักษาประตู, ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ และผู้ตัดสิน ที่อนุญาตให้อยู่ ในสนามระหว่างการแข่งขัน นอกเสียจากได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน
2.6 ผู้เล่นเข้าหรือออกจากสนามอยู่ภายใต้อำนาจในการตัดสินใจของผู้ตัดสินตลอดการแข่งขันรวมทั้งระหว่างพักครึ่งเวลา
2.7 ผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บ หรือมีเลือดออก จะต้องออกจากสนามนอกจากเว้นแต่ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ และจะต้องไม่กลับเข้ามาในสนามจนกว่าแผลจะถูกปิด ผู้เล่นจะต้องไม่สวมชุดที่เปื้อนเลือดกลับลงสนาม
กติกาข้อที่ 3
หัวหน้าทีม (Captains)
3.1 หนึ่งในผู้เล่นของแต่ละทีมจะต้องได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าทีม
3.2 หัวหน้าทีมคนที่สองจะต้องได้รับการแต่งตั้งทันทีที่หัวหน้าทีมคนแรกถูกลงโทษให้พักถูกการเล่น
3.3 หัวหน้าทีมจะต้องสวมปลอกแขนที่เห็นชัดเจน หรือข้อความที่คล้ายกันบนแขนหรือไหล่
3.4 หัวหน้าทีมจะต้องมีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของผู้เล่นทุกคนภายในทีม และจะต้องทำให้ มั่นใจว่าการเปลี่ยนตัวผู้เล่นในทีมตนเองนั้นถูกต้อง
การลงโทษบุคคล จะมีผลต่อหัวหน้าทีมทันทีหากหัวหน้าทีมไม่มีความรับผิดชอบต่อเรื่องเหล่านี้
กติกาข้อที่ 4
ชุดแข่งขัน และอุปกรณ์แข่งขัน (Players’ clothing and equipment)
4.1 ผู้เล่นทีมเดียวกันจะต้องใส่ชุดแข่งขันที่เหมือนกัน
4.2 ผู้เล่นจะต้องไม่สวมใส่สิ่งใดๆที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้เล่นคนอื่นๆ
ผู้เล่นปกติ
อนุญาตให้สวมถุงมือป้องกัน ที่ซึ่งไม่ได้มีขนาดใหญ่ หรือเกินขนาดปกติ
ควรสวมสนับแข้ง, อุปกรณ์ป้องกันข้อเท้า และฟันยาง
อุปกรณ์เหล่านี้อนุญาตให้สวมใส่ตลอดการแข่งขันด้วยเหตุผลทางการแพทย์เท่านั้น เช่น หน้ากากจะต้องเป็นสีเดียว โปร่งใสหรือสีขาว พื้นผิวเรียบ แนบชิดกับใบหน้า, หมวกป้องกันศีรษะ แบบนุ่ม, แว่นตา เลนซ์พลาสติค กรอบพลาสติค ซึ่งเหตุผลทางการแพทย์ต้องได้รับการประเมินโดยผู้มีอำนาจเหมาะสม และผู้เล่นที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้าใจในผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในการเล่นด้วยเหตุผลทางการแพทย์
อนุญาตให้สวมใส่หน้ากากป้องกันที่พื้นผิวเรียบ โปร่งใสหรือสีขาว หรือมีสีเดียวทั้งอัน จะต้องแนบชิดกับใบหน้าเมื่อป้องกันลูกโทษจากมุมและลูกที่จุดโทษ ระยะเวลาที่สวมใส่ในการป้องกันลูกโทษจากมุมและลูกที่จุดโทษที่อยู่ในเขตทำประตูที่ฝ่ายตนเองป้องกัน
ผู้เล่นคนอื่นๆที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ไม่อนุญาตให้สวมใส่เครื่องป้องกันศีรษะ(หน้ากาก หรือหมวกป้องกันศีรษะ)ในสถานการณ์อื่นๆ
4.3 ผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ จะต้องสวมเสื้อสีล้วน (สีเดียว) หรือสิ่งสวมใส่อื่นๆที่สีต้องแตกต่างกับผู้เล่นทั้งสองทีม
ผู้รักษาประตู(สวมชุดป้องกันเต็มชุด)จะต้องสวมเสื้อ หรือสิ่งสวมใส่อื่นๆช่วงบนของร่างกายที่ใช้ในการป้องกัน
4.4 ผู้รักษาประตู จะต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันซึ่งประกอบด้วยอย่างน้อย เครื่องป้องกันศีรษะ, เครื่องป้องกันขา และรองเท้าสำหรับเตะ เว้นแต่ว่าเครื่องป้องกันศีรษะ และอุปกรณ์ป้องกันแขนสามารถถอดออกได้เมื่อผู้รักษาประตูทำการยิงลูกที่จุดโทษ
ข้อความด้านบนนี้จะอนุญาตให้ใช้ต่อเมื่อผู้รักษาประตูสวมชุดป้องกันเต็มชุดเท่านั้น (อุปกรณ์ป้องกันร่างกายช่วงบน, แขนด้านบน, ข้อศอก, แขนด้านขวา, ตันขา, อุปกรณ์ป้องกันหัวเข่า, อุปกรณ์ป้องกันขา และรองเท้าที่ใช้เตะ)
4.5 ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษอาจสวมใส่เครื่องป้องกันศีรษะ เมื่ออยู่ในเขตครึ่งสนามตนเอง และ สวมใส่เครื่องป้องกันศีรษะเมื่อป้องกันลูกโทษจากมุม หรือลูกที่จุดโทษ
เครื่องป้องกันศีรษะรวมถึงหมวกที่ป้องกันแบบเต็มหน้า และมีที่คลุมตั้งแต่ใบหน้าถึงลำคอ คืออุปกรณ์ที่แนะนำสำหรับผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ
4.6 เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ป้องกันที่ทำให้เพิ่มขนาดร่างกายของผู้รักษาประตู หรือพื้นที่ในการป้องกัน ไม่อนุญาตให้ใช้
4.7 ไม้ที่ใช้แข่งขันต้องมีรูปร่างแบบดั้งเดิมทั้งด้ามจับ และความโค้ง มีด้านแบนอยู่ทางด้านซ้าย
ก. ไม้จะต้องราบเรียบ ไม่มีส่วนที่ขรุขระ หรือความคม
ข. รวมสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในไม้ ไม้จะต้องสามารถผ่านวงแหวนทดสอบที่มีเส้นผ่านจุดศูนย์กลาง 51 มิลลิเมตร
ค. ความโค้งตามแนวยาวของไม้จะต้องราบเรียบตามแนวยาวทั้งหมด และจะต้องผ่านความลึกของไม้ที่ 25 มิลลิเมตร
ง. ไม้จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดที่เห็นชอบโดยคณะกรรมการกฎกติกาของสหพันธ์ฮอกกี้นานาชาติ
4.8 ลูกฮอกกี้เป็นทรงกลม แข็ง และมีสีขาว (หรือสีที่มีการตกลงกันเพื่อให้แตกต่างกับพื้นสนามที่ใช้แข่งขัน)
ข้อกำหนดและรายละเอียดของไม้, ลูก, และอุปกรณ์ของผู้รักษาประตูถูกแยกไว้ตอนท้ายของกติกาเล่มนี้
กติกาข้อที่ 5
การแข่งขันและผลการแข่งขัน (Match and result)
5.1 การแข่งขันประกอบด้วย 2 ครึ่งๆละ 20 นาที และพักระหว่างครึ่ง 5 นาที
ระยะเวลาแข่งขันอื่นๆ และช่วงเวลาพัก อาจตกลงกันระหว่างสองทีม ยกเว้นได้ถูกระบุในกฎระเบียบการแข่งขันโดยเฉพาะ
ถ้าเกิดเหตุการณ์บางสิ่งเกิดขึ้นก่อนที่จะจบครึ่งเวลาแรกหรือจบการแข่งขัน และต้องการคำปรึกษาระหว่างผู้ตัดสิน ความคิดเห็นบางครั้งอาจจะสิ้นสุดไปแล้วก็ตาม การปรึกษาของผู้ตัดสินควรเกิดขึ้นทันทีและกลับไปแก้ไขสถานการณ์ตามความเหมาะสม
5.2 การขอเวลานอก
ขอได้เมื่อบอลตาย (บอลออกนอกสนาม, ก่อนเล่นลูกกินเปล่า, เริ่มกลางสนาม,ก่อนเล่นบูลลี่) ก่อนที่บอลจะถูกส่งเข้าเล่นอีกครั้ง
ไม่สามารถจะขอได้เมื่อมีการเล่นลูกโทษจากมุม และการเล่นลูกที่จุดโทษ
ขอเวลานอกได้ครึ่งเวลาละ 1 ครั้ง
เวลานอกที่ไม่ได้ใช้ในครึ่งเวลาแรกไม่สามารถนำมาใช้ได้ในครึ่งเวลาหลัง
เวลานอกครั้งละ 1 นาที
ระยะเวลาในการพักจะถูกควบคุมโดยผู้ตัดสิน
กลับมาเริ่มเกมใหม่โดยการส่งบอลเข้าเล่น ด้วยเล่นลูกกินเปล่า, ส่งกลางสนาม หรือบูลลี่ที่เหมาะสมก่อนที่เวลานอกจะเกิดขึ้น
5.3 ทีมที่ทำประตูได้มากกว่าคือผู้ชนะ ถ้าไม่มีทีมใดทำประตูได้ หรือทั้งสองทีมทำประตูได้เท่ากันผลการแข่งขันคือเสมอ
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการต่อเวลาพิเศษ และการแข่งขันยิงลูกที่จุดโทษ ถูกรวบรวมอยู่ในระเบียบการแข่งขันของสหพันธ์ฮอกกี้นานาชาติ
กติกาข้อที่ 6
การเริ่มการแข่งขันและการเริ่มการเริ่มใหม่ (Start and re-start the match)
6.1 การเสี่ยงเหรียญ
ก. ทีมที่ชนะในการเสี่ยงมีสิทธิเลือกฝั่งประตูที่จะบุกในครึ่งเวลาแรก หรือเริ่มเกมกลางสนาม
ข. ถ้าทีมที่ชนะในการเสี่ยงเลือกฝั่งประตูที่จะบุกก่อนในครึ่งเวลาแรก คู่ต่อสู้จะได้เริ่มเกมกลางสนาม
ค. ถ้าทีมที่ชนะในการเสี่ยงเลือกเริ่มเกมกลางสนามก่อนในครึ่งเวลาแรก คู่ต่อสู้จะได้เลือกว่าจะบุกไปยังด้านใด
6.2 ทิศทางในการเล่นจะเปลี่ยนในครึ่งเวลาหลัง
6.3 เริ่มต้นส่งจากกลางสนาม
ก. เพื่อเริ่มเกมโดยผู้เล่นจากทีมที่ชนะในการเสี่ยงและเลือกที่จะเริ่มเกม หรือมิฉะนั้นโดยทีมคู่ต่อสู้
ข. เพื่อเริ่มเกมอีกครั้งในครึ่งเวลาหลัง โดยผู้เล่นทีมที่ไม่ได้เริ่มเล่นในครึ่งเวลาแรก
ค. หลังจากที่มีการทำประตูได้โดยผู้เล่นฝั่งตรงข้าม
6.4 การส่งลูกจากกลางสนาม
ก. เริ่มส่งจากตรงกลางของสนาม
ข. อนุญาตให้ส่งไปทิศทางใดก็ได้
ค. ผู้เล่นคนอื่นๆยกเว้นผู้เริ่มเล่นจะต้องอยู่ในแดนของตนเองที่ประกอบด้วยประตูและผู้เล่นฝ่ายรับของตนเอง
6.5 การเล่นบูลลี่เพื่อเริ่มการแข่งขันใหม่ เมื่อเวลาหรือการเล่นต้องหยุดลงเนื่องจากการบาดเจ็บหรือเหตุผลอื่นๆ และไม่มีการทำผิดกติกาของทีมใดทีมหนึ่ง
ก. จุดที่เล่นบูลลี่ต้องใกล้เคียงกับจุดที่การเล่นได้หยุดลง แต่ต้องไม่ใช่ในระยะ 9 เมตรจากเส้นด้านหลังสนามและต้องไม่อยู่ในเขต 3 เมตรจากเขตทำประตู
ข. ลูกบอลอยู่ระหว่างผู้เล่นทั้งสองคนที่ซึ่งหันหน้าเข้าหากันโดยให้ประตูฝั่งที่ตนเองป้องกันอยู่ด้านด้านขวามือ
ค. ทั้งสองคนเริ่มเล่นโดยให้ไม้สัมผัสพื้นด้านขวาของลูกบอล และสัมผัสไม้ด้านแบนเหนือลูกบอล 1 ครั้ง หลังจากนั้นถึงอนุญาตให้ผู้เล่นเล่นลูกต่อไปได้
ง. ผู้เล่นคนอื่นๆต้องอยู่ห่างจากลูกบอลอย่างน้อย 5 เมตร
6.6 เมื่อการยิงลูกที่จุดโทษสิ้นสุด และไม่ได้ประตู ให้ฝ่ายรับได้เริ่มเล่นโดยเล่นลูกกินเปล่าในระยะ 15 เมตร ด้านหน้าตรงกลางเขตทำประตู
กติกาข้อที่ 7
ลูกบอลออกนอกสนาม (Ball outside the field)
ลูกบอลจะออกจากการเล่นในสนามต่อเมื่อข้ามผ่านกระดานด้านข้าง หรือเส้นด้านหลังสนามโดยสมบูรณ์
เมื่อบอลออกจากสนามจากกระดานด้านข้าง
เริ่มเล่นภายในระยะ 1 เมตรตรงจุดที่ลูกบอลข้ามกระดานด้านข้างออกไป
ถ้าเกิดขึ้นในเขตทำประตูโดยผู้เล่นฝ่ายรับเป็นผู้เริ่มเล่นให้เริ่มเล่นใหม่นอกเขตทำประตูในระยะ 1 เมตร และห่างจากกระดานด้านข้าง 1 เมตร แต่ถ้าฝ่ายรุกเป็นผู้เริ่มเล่นให้เริ่มเล่นใหม่นอกเขตทำประตู 3 เมตร และห่างจากกระดานข้าง 1 เมตร
การเล่นจะเริ่มใหม่โดยผู้เล่นทีมที่ไม่ได้สัมผัสบอลหรือเล่นเป็นคนสุดท้ายก่อนที่บอลจะออกจากสนาม
ใช้ขั้นตอนของการเล่นลูกกินเปล่า
7.3 เมื่อบอลออกจากสนามจากเส้นด้านหลังสนาม และไม่มีการได้ประตูเกิดขึ้น
ก. ถ้าบอลออกเส้นด้านหลังสนามโดยผู้เล่นฝ่ายรุก ให้ฝ่ายรับเริ่มเล่นโดยเล่นลูกกินเปล่าในระยะ 9.10 เมตรจากเส้นออกด้านหลังสนาม และตรงกับจุดที่ลูกออก
ข. ผู้เล่นฝ่ายรับเป็นผู้เริ่มเล่น
ค. ใช้ขั้นตอนของการเล่นลูกกินเปล่า
7.4 เมื่อผู้เล่นฝ่ายรับเจตนาทำให้ลูกบอลออกเส้นด้านหลังสนาม นอกจากผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ และไม่มีการได้ประตูเกิดขึ้น เริ่มเล่นใหม่อีกครั้งโดยผู้เล่นฝ่ายรุกได้เล่นลูกโทษจากมุม
กติกาข้อที่ 8
วิธีการได้ประตู (Method of scoring)
จะได้ประตูต่อเมื่อลูกบอลได้ถูกเล่นในเขตทำประตูโดยผู้เล่นฝ่ายรุก และไม่ได้ออกจากเขตทำ ประตูก่อนที่จะผ่านข้ามเส้นประตูโดยสมบูรณ์ และอยู่ภายใต้คานประตู
ลูกบอลอาจจะถูกเล่นโดยผู้เล่นฝ่ายรับหรือสัมผัสร่างกายก่อนหรือหลังถูกเล่นในเขตทำประตูโดยผู้เล่นฝ่ายรุก
กติกาข้อที่ 9
ข้อปฏิบัติในการเล่นของผู้เล่น (Conduct of play: players)
ผู้เล่นทุกคนถูกคาดหวังให้ทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบตลอดเวลา
เป็นการแข่งขันระหว่างสองทีมที่มีผู้เล่นข้างละไม่เกิน 6 คนในสนามตลอดเวลา
ผู้เล่นในสนามจะต้องถือไม้อยู่ในมือและไม่เล่นในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
ผู้เล่นจะต้องไม่ยกไม้ข้ามศีรษะคู่ต่อสู้
ผู้เล่นจะต้องไม่ สัมผัส จับ ถือ หรือรบกวน ผู้เล่นคนอื่นตลอดจนไม้ และเสื้อผ้า
ผู้เล่นจะต้องไม่แสดงอาการขู่ หรือขัดขวางผู้เล่นคนอื่น
ผู้เล่นจะต้องไม่ตีลูก
“การตบลูก” (Slap) การเคลื่อนที่ของไม้คล้ายการผลักบอลในระยะทางยาวๆ และการกวาดไม้ไปกับพื้นก่อนที่ไม้จะสัมผัสลูกบอล ซึ่งถือว่าเป็นการตี ไม่อนุญาตให้ใช้ในอินดอร์ฮอกกี้
ผู้เล่นจะต้องไม่เล่นลูกด้วยหลังไม้
ผู้เล่นจะต้องไม่เล่นลูกบอลด้วยส่วนใดส่วนหนึ่งของไม้เมื่อบอลอยู่สูงกว่าระดับไหล่ ยกเว้นการป้องกันประตูของฝ่ายรับโดยการหยุดหรือเปลี่ยนทางลูก
เมื่อป้องกันลูกบอลบนเส้นประตูผู้เล่นฝ่ายรับจะไม่ถูกลงโทษ ถ้าไม้ของเขาไม่เคลื่อนไหวหรือเคลื่อนที่ไปยังลูกบอลขณะที่พยายามที่จะหยุดหรือเปลี่ยนทางลูกยิงประตู ถ้าลูกบอลถูกตีหรือเล่นเหนือกว่าหัวไหล่อย่างชัดเจน และลูกนั้นไม่เป็นประตู ฝ่ายรุกจะได้ลูกที่จุดโทษทันที
ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับพยายามเจตนาหยุดหรือเปลี่ยนทิศทางของลูกเหนือกว่าระดับไหล่ โดยที่ทิศทางของลูกไม่ได้ตรงเข้าหากรอบประตูคู่ต่อสู่จะได้เล่นลูกโทษจากมุม และไม่ใช่ลูกที่จุดโทษ
ถ้าการเล่นที่อันตรายมีผลหลังจากการหยุดบอลหรือเปลี่ยนทิศทางบอลตามกติกา ฝ่ายรุกจะได้เล่นลูกโทษจากมุม
ผู้เล่นจะต้องไม่เล่นลูกที่อันตราย หรืออาจก่อให้เกิดอันตราย
ลูกที่ถือว่าอันตราย เมื่อมันเป็นสาเหตุของการหลีกเลี่ยงการกระทำที่ถูกต้องของผู้เล่น
การลงโทษจะเกิดขึ้นในจุดที่การเล่นอันตรายเกิดขึ้น
ผู้เล่นจะต้องไม่ทำลูกให้ลอยพ้นจากพื้นยกเว้นการทำประตู
จะไม่ใช่การทำผิดกติกาหากผู้เล่นไม่ได้เจตนาทำบอลให้สูงขึ้นจากพื้นความสูงไม่เกิน 100 มม. และไม่มีคู่ต่อสู้ในระยะที่สามารถจะเล่นบอลได้
ผู้เล่นจะต้องไม่พยายามเล่นลูกบอลขณะที่บอลลอยอยู่กลางอากาศ นอกจากผู้เล่นคนนั้นที่ไม่ใช่ทีมที่ทำลูกให้ลอยสูงขึ้นอาจจะทำให้ลูกหยุดกับพื้นได้
ถ้าลูกบอลอยู่ในอากาศจากผลการยิงประตู โดยบอลสัมผัสผู้รักษาประตู, ผู้เล่นฝ่ายรับ, เสาประตู และคานประตู ลูกบอลอาจจะทำให้หยุดกับพื้นได้โดยผู้เล่นทั้งสองทีม
ผู้เล่นจะต้องไม่เจตนาหยุด เตะ หยิบ ขว้าง หรือพาบอลด้วยส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
ไม่ใช่ความผิดเสมอถ้าลูกบอลสัมผัสกับเท้า, มือ หรือร่างกายของผู้เล่นในสนาม ผู้เล่นจะกระทำผิดกติกาถ้าเจตนาที่จะใช้เท้า. มือ หรือร่างกายเล่นลูกบอล หรือถ้าเขาขยับร่างกายของตนเองด้วยความตั้งใจที่จะหยุดลูก
ไม่ถือว่าผิดกติกาถ้าลูกบอลสัมผัสกับมือที่ถือไม้
ผู้เล่นในสนามจะต้องไม่เล่นลูกบอลขณะนอนอยู่กับพื้น หรือใช้เข่า, แขน และมือที่ไม่ใช่มือที่ถือไม้สัมผัสบนพื้นสนาม
ผู้เล่นจะต้องไม่กีดขวางการเล่นของคู่ต่อสู้ที่ซึ่งพยายามจะเล่นบอล
ผู้เล่นจะกีดขวางการเล่นถ้าเขา
– เข้าด้านหลังของคู่ต่อสู้
– รบกวนไม้ หรือร่างกายของคู่ต่อสู้
– ปกป้องลูกจากการเข้าแย่งบอลอย่างถูกกติกาด้วยไม้หรือส่วนอื่นๆในร่างกาย
ผู้เล่นที่รับลูกอนุญาตให้หันได้ทุกทิศทาง
ผู้เล่นที่ครอบครองลูกบอลอนุญาตให้เคลื่อนที่ไปทิศทางใดก็ได้ยกเว้นเข้าหาร่างกายของคู่ต่อสู้ หรือเข้าหาตำแหน่งระหว่างลูกบอลและคู่ต่อสู้ที่ซึ่งอยู่ในระยะการเล่นและพยายามที่จะเล่นบอล
ผู้เล่นที่วิ่งอยู่ด้านหน้าหรือกำบังคู่ต่อสู้เพื่อหยุดเขาไม่ให้เล่นบอลหรือพยายามที่จะเล่นบอลมันคือการกีดขวางการเล่น(การกำบังโดยบุคคลที่3) ยังสามารถใช้ได้กับผู้เล่นฝ่ายรุกที่วิ่งตัด หรือกำบังผ่ายรับ(รวมทั้งผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ)เมื่อมีการเล่นลูกโทษจากมุม
ผู้เล่นจะต้องไม่เข้าปะทะ ยกเว้นตำแหน่งที่พยายามจะเล่นบอลโดยปราศจากการสัมผัสถูกตัว
ผู้เล่นจะต้องไม่เจตนาเข้าไปในประตูคู่ต่อสู้ หรือวิ่งไปมาบริเวณหลังประตูทั้งสองฝั่ง
ผู้เล่นจะต้องไม่แลกเปลี่ยนไม้กันระหว่างการเล่นลูกโทษจากมุม และลูกที่จุดโทษ
ผู้เล่นจะต้องไม่โยนชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์ใดๆ บนพื้นสนาม, กับบอล, ผู้เล่นคนอื่น และกับผู้ตัดสิน
ผู้เล่นจะต้องไม่เจตนาถ่วงเวลา
ผู้เล่นจะต้องไม่เจตนาเอาบอลไว้ที่ชิ่งด้านข้าง
ถ้าลูกถูกยึดติดระหว่างไม้ผู้เล่นทั้งสองทีม ผู้ตัดสินจะให้เล่นลูกบูลลี่
กติกาข้อที่ 10
ข้อปฏิบัติในการเล่นของผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ
(Conduct of play: goalkeepers and player with goalkeeping privileges)
10.1 ผู้รักษาประตูที่สวมชุดป้องกันเต็มชุด หรืออย่างน้อยสวมเฉพาะเครื่องป้องกันศีรษะ เครื่องป้องกันขา และรองเท้าสำหรับเตะ จะต้องไม่ออกไปเล่นนอกเขตครึ่งสนามในแดนของตัวเอง ยกเว้นการยิงลูกที่จุดโทษ
เครื่องป้องกันศีรษะผู้รักษาประตูจะต้องสวมใส่ตลอดเวลา ยกเว้นการยิงลูกที่จุดโทษ
10.2 ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ จะต้องไม่ออกไปเล่นนอกเขตครึ่งสนามในแดนของตัวเองขณะที่สวมเครื่องป้องกันศีรษะ แต่ถ้าถอดหน้าเครื่องป้องกันศีรษะออกสามารถออกไปเล่นได้ทั้งสนาม
เครื่องป้องกันศีรษะผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษจะต้องสวมใส่ตลอดเวลา เมื่อป้องกันลูกโทษจากมุมหรือลูกที่จุดโทษ
10.3 เมื่อบอลอยู่ในเขตทำประตูของฝ่ายรับ และมีไม้อยู่ในมือ
ก. ผู้รักษาประตูที่สวมชุดป้องกันเต็มชุด อนุญาตให้ใช้ไม้ เท้า, เครื่องป้องกันขา, รองเท้าในการทำให้บอลเคลื่อนที่ และใช้ไม้, เท้า, รองเท้าสำหรับเตะ, ขา, เครื่องป้องกันขา หรือส่วนอื่นๆในร่างกายหยุด หรือเปลี่ยนทิศทางบอลได้ทุกทิศทาง รวมถึงทำให้ลูกข้ามเส้นออกด้านหลัง
ผู้รักษาประตูไม่อนุญาตให้เล่นในลักษณะที่อันตรายโดยการใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ที่ตนเองสวมใส่อยู่
ข. ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ อนุญาตให้ใช้ไม้, เท้า, ขา ในการทำให้บอลเคลื่อนที่ และใช้ไม้, เท้า, ขา หรือส่วนอื่นๆในร่างกายหยุด หรือเปลี่ยนทิศทางบอลได้ทุกทิศทาง รวมถึงทำให้ลูกข้ามเส้นออกด้านหลัง
ค. ผู้รักษาประตูที่สวมชุดป้องกันเต็มชุด และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ อนุญาตให้ใช้แขน, มือ, และส่วนอื่นๆในร่างกายผลักบอลออกไป
การกระทำในกฎข้างต้นนั้นอนุญาตเพียงแค่ในส่วนของจังหวะในการป้องกันประตู หรือทำให้บอลเคลื่อนที่ออกจากจังหวะการทำประตูของฝ่ายตรงข้าม ไม่อนุญาตให้ผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษทำให้บอลเคลื่อนที่โดยใช้กำลังจากแขน, มือ, หรือร่างกายที่ใช้ระยะทางยาวเกินไป
10.4 ผู้รักษาประตูเต็มชุด และผู้เล่นรักษาประตูสิทธิพิเศษ ห้ามนอนทับลูก
10.5 เมื่อลูกบอลอยู่นอกเขตทำประตูที่ผู้รักษาประตูป้องกันอยู่ ผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ อนุญาตให้เล่นบอลได้เฉพาะไม้เหมือนกับผู้เล่นปกติในสนาม
ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษถือว่าเป็นผู้เล่นในสนามเมื่ออยู่นอกเขตทำประตูที่ตนเองป้องกันอยู่
10.6 ผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษอนุญาตให้เล่นบอลในเขตทำประตูโดยนอนเล่นกับพื้นในเขตทำประตูได้
กติกาข้อที่ 11
ข้อปฏิบัติของผู้ตัดสิน (Conduct of play: umpires)
ผู้ตัดสิน 2 คนควบคุมการแข่งขัน ควบคุมการเล่นให้เป็นไปตามกติกา และให้ความยุติธรรม
ผู้ตัดสินแต่ละคนมีความรับผิดชอบในการตัดสินใจครึ่งหนึ่งของสนามตลอดการแข่งขัน
ผู้ตัดสินแต่ละคนรับผิดชอบในการตัดสินใจในลูกกินเปล่าในเขตทำประตู, ลูกโทษจากมุม, ลูกที่จุดโทษ และการได้ประตูในครึ่งสนามที่ตนเองรับผิดชอบ
ผู้ตัดสินมีความรับผิดชอบต่อการบันทึกผลการได้ประตู, การให้ใบลงโทษ, และการพักการเล่น
ผู้ตัดสินมีความรับผิดชอบในเรื่องเวลาของการแข่งขันให้ใช้เวลาเต็มในการเล่น, แจ้งถึงการหมดเวลาทั้งในครึ่งเวลาแรกและครึ่งเวลาหลัง และการสิ้นสุดเวลาของการเล่นลูกโทษจากมุม ถ้าเวลานั้นได้ได้ถูกขยายออกไปเพราะการเล่นลูกโทษจากมุม
ผู้ตัดสินจะให้สัญญาณนกหวีดเพื่อ
เริ่มต้นและสิ้นสุดการแข่งขันในแต่ละครึ่งเวลา
เริ่มเล่นบูลลี่
ลงโทษผู้เล่น
เริ่มต้นและสิ้นสุดการยิงลูกที่จุดโทษ
ให้สัญญาณการได้ประตู
เริ่มเกมหลังจากมีการทำประตู
เริ่มเกมหลังจากการยิงลูกที่จุดโทษ เมื่อไม่มีประตูเกิดขึ้น
หยุดการแข่งขันสำหรับการเปลี่ยนผู้รักษาประตูเต็มชุด และเริ่มเกมเมื่อการเปลี่ยนตัวเสร็จสิ้น
หยุดเกมสำหรับเวลานอก และเริ่มต้นใหม่หลังจากเวลานอกสิ้นสุด
หยุดการแข่งขันไม่ว่าเหตุผลใดๆ และเริ่มต้นใหม่
ให้สัญญาณเมื่อจำเป็น เมื่อลูกบอลผ่านเส้นทั้งลูกออกจากสนาม
ผู้ตัดสินจะต้องไม่สอนหรือโค้ชตลอดทั้งเกม
ถ้าลูกบอลสัมผัสกับผู้ตัดสิน, บุคคลอื่น หรือวัตถุใดๆในสนาม ให้เกมดำเนินต่อไป
กติกาข้อที่ 12
การลงโทษ (Penalties)
การได้เปรียบ: การลงโทษจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นหรือทีมถูกเอาเปรียบอย่างชัดเจนจากคู่ต่อสู้ที่ทำการละเมิดกติกา
ถ้าให้การลงโทษแล้วไม่เกิดการได้เปรียบของทีมที่ซึ่งไม่ได้ละเมิดกติกา การเล่นให้ดำเนินต่อไป
การได้ลูกกินเปล่า
การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรุกภายในเขตครึ่งสนามของฝ่ายรับ
การไม่เจตนาทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับนอกเขตทำประตู แต่อยู่ในเขตครึ่งสนามของฝ่ายรับ
การได้ลูกโทษจากมุม
การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับในเขตทำประตู ซึ่งไม่ได้ขัดขวางโอกาสที่จะทำประตูของฝ่ายรุก
การเจตนาทำผิดกติกาในเขตทำประตูโดยผู้เล่นฝ่ายรับต่อคู่ต่อสู้ที่ซึ่งไม่ได้ครอบครองลูกบอลหรือมีโอกาสที่จะเล่นลูกบอล
การเจตนาทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับนอกเขตทำประตูแต่อยู่ภายในเขตครึ่งสนามของฝ่ายรับ
การเจตนาทำให้ลูกบอลข้ามเส้นออกด้านหลังโดยผู้เล่นฝ่ายรับ
ผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษอนุญาตให้เปลี่ยนทิศทางลูกบอลด้วยไม้, เครื่องป้องกันต่างๆ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายในทิศทางใดก็ได้รวมทั้งเส้นออกด้านหลัง
เมื่อทีมใดทีมหนึ่งทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่นไม่ถูกต้อง
เมื่อลูกบอลติดอยู่ในชุดหรืออุปกรณ์ของผู้เล่นฝ่ายรับขณะอยู่ในเขตทำประตู
การได้ลูกที่จุดโทษ
การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับในเขตทำประตูที่ซึ่งขัดขวางโอกาสในการทำประตู
การเจตนาทำผิดกติกาในเขตทำประตูโดยผู้เล่นฝ่ายรับต่อคู่ต่อสู้ที่ครอบครองบอลหรือมีโอกาสที่จะเล่นบอล
ผู้เล่นฝ่ายรับออกจากเส้นออกหลังหรือเส้นประตูก่อนสัญญาณหลายครั้งติดต่อกันในขณะที่ฝ่ายรุกเล่นลูกโทษจากมุม
ถ้ามีการทำผิดกติกาหรือผิดข้อปฏิบัติก่อนที่จะมีการลงโทษเกิดขึ้น
ลูกกินเปล่าจะเพิ่มระยะไปด้านหน้าอีก 3 เมตร
ลูกกินเปล่าที่ให้กับฝ่ายรุกไม่สามารถเพิ่มระยะเข้าไปในเขตทำประตูได้
การลงโทษที่สูงยิ่งขึ้น
ให้การลงโทษส่วนบุคคล
การได้เล่นลูกกินเปล่าอาจจะย้อนกลับมาให้อีกฝ่ายได้ ถ้าการทำผิดกติกาต่อมาถูกกระทำโดยฝ่ายที่ได้เปรียบในครั้งแรก
กติกาข้อที่ 13
วิธีการเล่นสำหรับการลงโทษต่างๆ (Procedures for taking penalties)
13.1 จุดที่เล่นลูกกินเปล่า
ก. ลูกกินเปล่าให้เล่นใกล้กับจุดที่เกิดเหตุ
ใกล้ หมายถึง การเล่นในระยะจุดที่เกิดการทำผิดกติกาเกิดขึ้น และต้องไม่ได้เปรียบจนมากเกินไป
จุดที่เล่นลูกกินเปล่าจะต้องตรงจุดที่เกิดเหตุมากที่สุดบริเวณใกล้กับเขตทำประตู
ข. ฝ่ายรุกได้เล่นลูกกินเปล่าในเขต 3 เมตรจากเขตทำประตู ให้นำลูกกลับไปตั้งบนเส้น 3 เมตรที่ใกล้เคียงที่สุด
ค. ฝ่ายรับได้เล่นลูกกินเปล่านอกเขตทำประตู แต่อยู่ในระยะ 9 เมตรจากเส้นหลัง ให้นำลูกขึ้นมาเริ่มเล่นในระยะ 9.10 เมตร และขนานกับเส้นข้างสนาม
ง. ฝ่ายรับได้เล่นลูกกินเปล่าในเขตทำประตู สามารถเริ่มเล่นได้ในเขตทำประตูใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ หรือนำลูกขึ้นมาเล่นในระยะ 9.10 เมตร และขนานกับเส้นข้างสนาม
13.2 ขั้นตอนการเล่นลูกกินเปล่า, การเริ่มเล่นจากลางสนาม และการส่งลูกเข้าเล่นจากข้างสนาม
ในส่วนต่างๆของข้อนี้(13.2) ใช้บังคับตามความเหมาะสมกับการเล่นลูกกินเปล่า, การเริ่มเล่นจากลางสนาม และการส่งลูกเข้าเล่นจากข้างสนาม
ลูกบอลจะต้องอยู่นิ่งกับพื้น
คู่ต่อสู่จะต้องอยู่ห่างจากบอลอย่างน้อย 3 เมตร
ถ้าคู่ต่อสู้อยู่ในระยะ 3 เมตรจากลูกบอลจะต้องไม่รบกวน หรือพยายามที่จะเล่นลูกนั้น ถ้าคู่ต่อสู้ไม่ได้รบกวน หรือพยายามที่จะเล่นลูกนั้น ผู้ตัดสินจะให้การเล่นลูกกินเปล่านั้นดำเนินต่อไปต้องไม่ทำให้ช้า
ถ้าเป็นการเล่นลูกกินเปล่าภายในเขตครึ่งสนามของฝ่ายรุก ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะต้องอยู่ห่างจากบอลอย่างน้อย 3 เมตร
ลูกบอลจะต้องเคลื่อนที่โดยการผลักเท่านั้น
การเล่นลูกกินเปล่าของฝ่ายรุกในเขตครึ่งสนามของฝ่ายรับ ลูกบอลจะต้องไม่ถูกส่งเข้าเล่นภายในเขตทำประตูโดยตรง บอลอาจจะเข้าไปในเขตทำประตูทันทีหลังจากสัมผัสกระดานด้านข้างแล้ว หรือบอลจะต้องถูกส่งไปอย่างน้อย 3 เมตร และสัมผัสกับผู้เล่นทีมหนึ่งทีมใดก่อนนอกเหนือจากผู้ที่เล่นลูกกินเปล่า หรือสัมผัสกระดานด้านข้างก่อน
ถ้าผู้เล่นที่เล่นลูกกินเปล่ายังคงเล่นลูกต่อไป(ไม่มีผู้เล่นคนอื่นได้เล่นบอล)
ผู้เล่นคนนั้นอาจจะเล่นลูกบอลได้หลายๆครั้ง,
แต่ลูกบอลจะต้องเคลื่อนที่อย่างน้อย 3 เมตร,
ก่อนที่ผู้เล่นคนนั้นจะเล่นบอลเข้าไปในเขตทำประตูโดยการผลักบอล
อีกทางเลือกหนึ่ง
ผู้เล่นอีกคนหนึ่งของทีมใดทีมหนึ่ง คนที่สามารถที่จะเล่นบอลอย่างถูกต้องจะต้องเปลี่ยนทิศทางบอล หรือผลักลูกบอลก่อนที่จะเข้าไปในเขตทำประตู
หลังจากที่ผู้เล่นคนนี้สัมผัสลูกบอล มันสามารถเล่นเข้าไปในเขตทำประตูโดยผู้เล่นคนอื่นๆรวมทั้งผู้เล่นคนที่เล่นลูกกินเปล่า
หลังจากที่ลูกบอลสัมผัสกับกระดานด้านข้าง ผู้เล่นคนใดก็ได้อาจจะเปลี่ยนทิศทาง หรือผลักบอลเข้าไปในเขตทำประตู
13.3 การเล่นลูกโทษจากมุม
ลูกบอลจะวางบนเส้นด้านหลังสนามอย่างน้อย 6 เมตร จากเสาประตู ด้านที่ฝ่ายรุกเลือก
ฝ่ายรุกส่งลูกบอลเข้าเล่นโดยต้องไม่เจตนาทำลูกให้ลอยขึ้น
ฝ่ายรุกที่ส่งบอลเข้าเล่นจะต้องมีเท้าใดเท้าหนึ่งอยู่นอกสนาม
ฝ่ายรุกที่เหลือต้องอยู่ในสนาม นอกเขตทำประตูทั้งไม้, มือ และเท้าห้ามสัมผัสพื้นในเขตทำประตู
ไม่มีผู้เล่นฝ่ายรับและฝ่ายรุก นอกเหนือจากฝ่ายรุกที่ส่งบอลเข้าเล่นที่อนุญาตให้อยู่ในระยะ 3 เมตรจากลูกบอลเมื่อมีการผลักหรือตีลูก
ผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ต้องยืนอยู่ด้านในประตู ผู้เล่นฝ่ายรับมากกว่า 5 คนที่เหลือยืนอยู่หลังเส้นออกด้านหลังฝั่งตรงข้ามกับผู้เปิดของฝ่ายรุก ห้ามส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย และไม้สัมผัสในเขตทำประตู
ถ้าทีมฝ่ายรับเลือกป้องกันลูกโทษจากมุมโดยใช้ผู้เล่นในสนามทั้งหมด ไม่มีผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ผู้เล่นทั้งหมดยืนหลังเส้นออกด้านหลังฝั่งตรงข้ามกับผู้เปิดของฝ่ายรุก และจะต้องใช้ไม้เพียงอย่างเดียวในการป้องกันประตู
ผู้เล่นฝ่ายรับที่ไม่ได้อยู่หลังเส้นออกด้าน ต้องยืนอยู่หลังเส้นกลางสนาม
ก่อนที่บอลจะถูกส่งเข้าเล่น ห้ามฝ่ายรุกนอกจากผู้เล่นที่ส่งบอลเข้าเล่นเข้ามาในเขตทำประตู และไม่มีฝ่ายรับวิ่งออกจากเส้นจากเส้นออกด้านหลัง และเส้นกลางสนามโดยเด็ดขาด
หลังจากการส่งบอลเข้าเล่นแล้วผู้เล่นที่ส่งบอลห้ามสัมผัสลูกอีกครั้ง จนกระทั้งลูกนั้นสัมผัสกับผู้เล่นคนอื่นแล้ว
จะทำประตูไม่ได้จนกว่าลูกบอลจะถูกส่งออกไปเล่นนอกเขตทำประตู
“การกวาดลูก” ที่ซึ่งใช้การผลักบอลในระยะไกล หรือการเคลื่อนที่ของไม้ด้วยการกวาดก่อนที่จะสัมผัสกับลูกบอลถือว่าเป็นการตี
ฝ่ายรับที่วิ่งเข้าหาวิถีลูกหรือเข้าหาผู้ยิง โดยไม่พยายามที่จะเล่นลูกบอลด้วยไม้จะต้องถูกลงโทษสำหรับการเล่นที่อันตราย
ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับที่วิ่งออกมาเพื่อป้องกัน ถ้าลูกโดนต่ำกว่าเข่าในระยะ 3 เมตร ฝ่ายรุกจะได้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้งหนึ่ง และถ้าลูกสัมผัสเหนือเข่าของผู้เล่นฝ่ายรับในท่าทางปกติ ฝ่ายรับจะได้ลูกกินเปล่า
กฎการเล่นลูกโทษจากมุมจะไม่ใช้ ถ้าลูกบอลเคลื่อนที่มากกว่า 3 เมตรออกจากเขตทำประตู
13.4 การแข่งขันจะเพิ่มเวลาขึ้นในช่วงครึ่งเวลาแรกและช่วงจบเกม เพื่อให้สิ้นสุดในการเล่นลูกโทษจากมุม หรืออาจจะตามมาด้วยลูกโทษจากมุมอีกครั้ง หรือลูกที่จุดโทษ
13.5 ลูกโทษจากมุมจะสิ้นสุดต่อเมื่อ
ก. มีการได้ประตู
ข. ฝ่ายรับได้ลูกกินเปล่า
ค. บอลถูกส่งออกไปนอกเขตยิงประตูเกิน 3 เมตร
ง. บอลถูกส่งข้ามออกไปเส้นด้านหลังสนาม และไม่ใช่การเล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
จ. กองหลังกระทำผิดกติกาซึ่งไม่มีผลต่อการได้ลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
ฉ. ฝ่ายรุกได้ลูกที่จุดโทษ
ช. ได้ลูกบูลลี่
ถ้าการเล่นหยุดลงเนื่องจากสาเหตุการบาดเจ็บ หรือเหตุผลอื่นๆระหว่างเล่นลูกโทษจากมุมในช่วงที่หมดเวลาไปแล้วในครึ่งแรกหรือครึ่งหลังและเป็นการบูลลี่ ลูกโทษจากมุมจะต้องเล่นใหม่อีกครั้ง
13.6 ลูกโทษจากมุมในช่วงหมดเวลาในครึ่งเวลาแรกและครึ่งเวลาหลังจะสิ้นสุดด้วยเช่นกันถ้าลูกบอลออกนอกเขตทำประตูเป็นครั้งที่สอง
13.7 การทำผิดกติการะหว่างการเล่นลูกโทษจากมุม
ผู้เล่นที่ส่งบอลเข้าเล่นจากเส้นออกด้านหลังไม่ได้มีเท้าอย่างน้อย 1 ข้างอยู่นอกสนาม ให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
การทำผิดกติกาใดๆของผู้เล่นที่ส่งบอลเข้าเล่นจากเส้นออกด้านหลัง ฝ่ายรับจะได้เล่นลูกกินเปล่า
ผู้เล่นฝ่ายรับข้ามเส้นประตูหรือเส้นออกด้านหลังก่อนได้รับอนุญาต ให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
ผู้เล่นฝ่ายรุกเข้าไปในเขตทำประตูก่อนได้รับอนุญาต ให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
การทำผิดกติกาอื่นๆของผู้เล่นฝ่ายรุก ฝ่ายรับจะได้เล่นลูกกินเปล่า
การเล่นลูกที่จุดโทษ
เมื่อมีการให้ลูกที่จุดโทษเวลาและการเล่นจะต้องหยุด
ผู้เล่นทุกคนในสนามยกเว้นผู้ยิงและผู้เล่นที่ป้องกันให้ยืนอยู่หลังเส้นกลางสนาม และต้องไม่รบกวนการเล่นลูกที่จุดโทษ
ลูกบอลจะต้องวางบนจุดโทษ
ก่อนที่จะยิงผู้ที่ยิงจะต้องยืนด้านหลังและอยู่ในระยะที่สามารถเล่นลูกบอลได้
ผู้เล่นที่ป้องกันคือผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษต้องยืนเท้าทั้งสองบนเส้นประตู และจะต้องไม่เคลื่อนเท้าออกนอกเส้นประตูจนกว่าลูกบอลได้ถูกเล่นแล้ว
ถ้าผู้เล่นที่ป้องกันคือผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษจะต้องสวมเครื่องป้องกันศีรษะ ถ้าเป็นผู้เล่นคนอื่นๆที่เป็นผู้เล่นในสนามจะต้องสวมหน้ากากในการป้องกัน
ถ้าทีมที่ป้องกันลูกที่จุดโทษเลือกที่จะเล่นเพียงแค่ผู้เล่นในสนาม และไม่มีผู้รักษาประตูสำรองหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษในการป้องกัน ผู้เล่นที่ป้องกันใช้ได้เพียงแค่ไม้ในการป้องกันประตู
ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดต่อเมื่อผู้เล่นทั้งสองฝ่ายอยู่ในตำแหน่งที่พร้อม
ผู้เล่นที่ยิงลูกที่จุดโทษจะต้องไม่ยิงจนกว่าจะได้ยินสัญญาณจากผู้ตัดสิน
ผู้เล่นที่ยิงและผู้เล่นที่ป้องกันจะต้องไม่เจตนาทำให้การยิงนั้นช้า
ผู้ยิงจะต้องไม่หลอกล่อขณะยิงประตู
ผู้เล่นที่ยิงลูกที่จุดโทษต้องผลัก ตวัด หรือตักลูก และอนุญาตให้บอลลอยได้ทุกความสูง
การใช้”ลูกดึงหรือลากบอล”ไปกับพื้นก่อนยิงประตู ในลูกที่จุดโทษไม่อนุญาตให้ใช้
ผู้เล่นที่ยิงลูกที่จุดโทษจะต้องเล่นบอลเพียงแค่ครั้งเดียว และต้องไม่เข้าไปใกล้ทั้งบอลหรือผู้เล่นที่ป้องกันประตู
ลูกที่จุดโทษจะสิ้นสุดเมื่อ
ลูกนั้นได้ประตู
ลูกบอลยังอยู่ในเขตทำประตู, อยู่ในเครื่องป้องกันของผู้รักษาประตู, ลูกบอลถูกป้องกันโดยผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือออกนอกเขตทำประตู
13.10 การทำผิดกติการะหว่างการยิงลูกที่จุดโทษ
การยิงถูกกระทำก่อนสัญญาณนกหวีด และลูกนั้นเป็นประตู ให้ยิงลูกที่จุดโทษอีกครั้ง
การยิงถูกกระทำก่อนสัญญาณนกหวีด และลูกนั้นไม่เป็นประตู ให้ฝ่ายป้องกันได้เล่นลูกกินเปล่า
การทำผิดกติกาใดๆของผู้เล่นที่ยิง ให้ฝ่ายป้องกันได้เล่นลูกกินเปล่า
การทำผิดกติกาใดๆของผู้เล่นที่ป้องกัน รวมถึงการขยับขาข้างใดข้างหนึ่งก่อนที่ลูกบอลจะถูกยิง ให้ยิงลูกที่จุดโทษอีกครั้ง
ถ้าผู้เล่นที่ป้องกันประตูป้องกันลูกที่จะเป็นประตูได้แต่เคลื่อนเท้าข้างใดข้างหนึ่งก่อนที่บอลจะถูกเล่น ผู้เล่นคนนั้นจะต้องได้รับการเตือน(ใบเขียว) และถ้าทำผิดกติกาอีกครั้งจะต้องโดนพักการเล่น(ใบเหลือง)
ถ้าลูกนั้นเป็นประตูถึงแม้จะเป็นการทำผิดกติกาโดยฝ่ายป้องกัน ให้ลูกนั้นเป็นประตู
การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นที่ป้องกัน และลูกนั้นไม่เป็นประตู ให้ยิงลูกที่จุดโทษอีกครั้ง
การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรุกคนอื่นๆที่ไม่ใช่ผู้ยิง และลูกนั้นเป็นประตู ให้ยิงลูกที่จุดโทษอีกครั้ง
กติกาข้อที่ 14
การลงโทษส่วนบุคคล (Personal penalties)
14.1 สำหรับการทำผิดกติกาใดๆของผู้เล่นอาจจะ
ตักเตือนด้วยวาจา
เตือนโดยใช้ใบเขียว
พักการเล่นชั่วคราวอย่างน้อย 2 นาที (ใบเหลือง)
ระยะเวลาของการพักการเล่นของผู้เล่นในหรือนอกสนาม ทีมที่ทำผิดกติกาต้องเล่นโดยมีผู้เล่นน้อยกว่า 1 คน
พักการเล่นถาวร (ใบแดง)
การพักการเล่นตลอดเกม ทีมที่ทำผิดกติกาเล่นในเวลาที่เหลือโดยมีผู้เล่นน้อยกว่า 1 คน
การลงโทษส่วนบุคคลอาจได้รับมากไปกว่าโทษที่เหมาะสม
14.2 ผู้เล่นที่ถูกสั่งพักชั่วคราว ต้องออกไปนั่งพักในที่ที่กรรมการกำหนด จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสินที่ให้ใบลงโทษให้กลับเข้าไปเล่น
14.3 ผู้เล่นที่ถูกสั่งพักชั่วคราว อาจจะกลับไปฝั่งของตัวเองได้ในระหว่างพักครึ่งเวลา และกลับมานั่งต่อจนครบกำหนดเวลา
14.4 ระยะเวลาพักที่กำหนดไว้สามารถเพิ่มขึ้นได้สำหรับผู้เล่นที่ประพฤติผิดซ้ำขณะถูกพักการเล่น
14.5 ผู้เล่นที่ถูกสั่งพักถาวรจะต้องออกจากสนาม และพื้นที่โดยรอบสนาม
การทำหน้าที่ผู้ตัดสิน (Umpiring)
กติกาข้อที่ 1
วัตถุประสงค์ (Objective)
1.1 การตัดสินฮอกกี้เป็นงานที่ท้าทายความสามารถ และเป็นวิธีที่ดีที่ทำให้ผู้ตัดสินมีส่วนร่วมกับเกมแข่งขัน
1.2 ผู้ตัดสินสามารถให้การสนับสนุนเกมการแข่งขันได้โดย
ช่วยยกระดับมาตรฐานของเกมในทุกระดับ โดยทำให้มั่นใจว่าผู้เล่นปฏิบัติตามกฎกติกา
ทำให้มั่นใจว่าทุกเกมเล่นด้วยน้ำใจนักกีฬาที่ดีงาม
ช่วยเพิ่มความสนุกสนานของเกมสำหรับผู้เล่น, คนดู และคนอื่นๆ
1.3 วัตถุประสงค์ในการทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน
ความสม่ำเสมอ, ผู้ตัดสินต้องรักษาความเอาใจใส่ผู้เล่นอย่างสม่ำเสมอ
ความยุติธรรม, การตัดสินใจใดๆต้องทำโดยความรู้สึกถึงความยุติธรรม และความซื่อสัตย์
การเตรียมพร้อม, ไม่ว่าจะมีประสบการณ์ทำหน้าที่ผู้ตัดสินมานานขนาดไหน สำคัญที่สุดจะต้องมีการเตรียมพร้อมทุกเกม
การมีสมาธิ, การมีสมาธิในเกมจะต้องรักษาไว้ตลอดทั้งเกม อย่าให้สิ่งใดมากวนใจผู้ตัดสินได้
การเข้าถึง, การเข้าใจที่ดีต่อกติกาต้องนำมาประสานกับสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เล่น
การทำให้ดีกว่า, ผู้ตัดสินต้องมีเป้าหมายที่จะทำให้ดีขึ้นในทุกเกม
การเป็นธรรมชาติ, ผู้ตัดสินจะต้องเป็นตัวของตัวเอง และต้องไม่ลอกเลียนผู้อื่น
1.4 ผู้ตัดสินจะต้อง
มีความรู้ในกติกาฮอกกี้อย่างละเอียด และต้องระลึกไว้เสมอว่าความแม่นยำในกติกา และการตอบสนองที่ฉับไวเป็นสิ่งสำคัญ
สนับสนุน และส่งเสริมการเล่นที่ใช้ทักษะที่สูง, จัดการอย่างทันท่วงทีและหนักแน่นต่อความผิด และใช้บทลงโทษที่เหมาะสม
แสดงให้เห็นถึงการควบคุมการแข่งขัน และรักษาไว้ได้ตลอดทั้งเกม
ใช้เครื่องมือที่มีในการควบคุมนักกีฬา
ใช้กติกาในการให้ได้เปรียบมากสุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยให้เกมต่อเนื่องแต่ต้องควบคุมเกมได้ด้วย
กติกาข้อที่ 2
การใช้กติกา (Applying the rules)
2.1 ปกป้องผู้เล่นที่มีทักษะสูง และความผิดที่ลงโทษ
ความผิดที่ร้ายแรงจะต้องถูกตัดสินโดยทันที เช่น การที่เล่นอันตราย หรือการเล่นที่หยาบคายใดๆ จะต้องตัดสินได้รวดเร็ว และหนักแน่นในการแข่งขัน
การเจตนาทำผิดกติกาจะต้องลงโทษอย่างหนัก
ผู้ตัดสินจะต้องแสดงให้เห็นว่าถ้าผู้เล่นให้ความร่วมมือ, มีทักษะดี จะได้รับการปกป้อง และการแข่งขันจะถูกขัดจังหวะการเล่นเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น
2.2 การได้เปรียบ
การทำผิดกติกาทุกครั้งไม่จำเป็นจะต้องลงโทษ เมื่อผลประโยชน์ไม่ได้รับจากการกระทำผิดนั้น การขัดจังหวะที่ไม่จำเป็นของเกมการแข่งขันเป็นผลให้เกมไม่ต่อเนื่อง
เมื่อกติกาถูกละเมิดผู้ตัดสินจะต้องใช้การให้ได้เปรียบ ถ้าเป็นการลงโทษที่รุนแรงที่สุด
การครอบครองบอลไม่ได้หมายความว่าได้เปรียบ สำหรับการให้ได้เปรียบนั้นผู้เล่นหรือทีมที่ครอบครองบอลจะต้องสามารถทำให้การเล่นในจังหวะต่อไปของเขานั้นดีขึ้น
เมื่อมีการตัดสินใจที่จะเล่นได้เปรียบแล้ว โอกาสที่สองจะต้องไม่ถูกให้โดยย้อนกลับไปยังลงโทษอันเดิม
การคาดการณ์ล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญของความต่อเนื่องของเกม, การมองเลยออกไปจากการกระทำในขณะนั้น และตระหนักถึงการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของนักกีฬา
2.3 การควบคุม
การตัดสินใจจะต้องทำอย่างทันท่วงที, ในทางบวก, ชัดเจน และต่อเนื่อง
การตัดสินอย่างเข้มงวดในช่วงต้นเกมจะช่วยลดการกระทำผิดที่จะเกิดซ้ำๆในเกม
ไม่เป็นที่ยอมรับในกีฬาฮอกกี้สำหรับผู้เล่นที่ทำผิดกติกาโดยใช้วาจา ท่าทาง และทัศนะคติที่ไม่ดีต่อคู่ต่อสู้, ผู้ตัดสิน หรือเจ้าหน้าที่เทคนิคอื่นๆ ผู้ตัดสินต้องจัดการกับการกระทำดังกล่าวอย่างเข้มแข็ง ตามลำดับการเตือนคือ ด้วยวาจา, ตักเตือน(ใบเขียว) หรือพักชั่วคราว(ใบเหลือง) หรือพักถาวร(ใบแดง) ข้อควรระวังการเตือนและการสั่งพักผู้เล่นสามารถให้โดยแยกหรือรวมกับการลงโทษอื่น
การตักเตือนสามารถให้กับผู้เล่นได้โดยไม่ต้องหยุดเวลา
อาจเป็นไปได้แต่ไม่แนะนำให้ทำสำหรับผู้เล่นที่จะได้รับใบลงโทษใบเขียว 2 ใบ หรือใบเหลือง 2 ใบ ในการทำผิดกติกาที่สาเหตุต่างกัน อย่างไรก็ตามเมื่อการทำผิดกติกาที่ได้ใบลงโทษแล้วและถูกทำซ้ำ ใบลงโทษใบเดิมจะต้องไม่ถูกใช้อีกครั้ง และควรให้การลงโทษที่หนักขึ้น
เมื่อให้ใบเหลืองใบที่สอง ระยะเวลาในการพักควรเพิ่มขึ้นมากกว่าใบแรก
จะต้องชัดเจนในความแตกต่างระหว่างระยะเวลาในการพักของใบเหลืองสำหรับการทำผิดกติกาเล็กน้อยกับระยะเวลาสำหรับการทำผิดกติกาที่รุนแรง หรือการทำผิดกติกาโดยใช้ร่างกาย
เมื่อผู้เล่นเจตนามีพฤติกรรมที่รุนแรงต่อผู้เล่น, ผู้ตัดสิน และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ใบแดงจะต้องให้โดยทันที
2.4 การลงโทษ
มีการลงโทษที่หลากหลาย
การลงโทษสองอย่างสามารถนำมาใช้ร่วมกันได้เพื่อจัดการกับความผิดที่กระทำซ้ำๆ
กติกาข้อที่ 3
ทักษะของผู้ตัดสิน (Umpiring skills)
3.1 หลักสำคัญของทักษะผู้ตัดสินคือ
การเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขัน
การประสานร่วมมือกันระหว่างผู้ตัดสิน
การเคลื่อนที่ และตำแหน่งการยืน
สัญญาณนกหวีด
สัญญาณมือ
3.2 การเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขัน
ผู้ตัดสินจะต้องมีการเตรียมตัวอย่างดีในแต่ละเกมโดยมาถึงสนามในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ก่อนการแข่งขันผู้ตัดสินทั้งสองคนจะต้องตรวจสอบความพร้อมของสนาม เส้น, ประตู และตาข่าย ตรวจสิ่งที่อาจจะเป็นอันตรายต่อการเล่นของอุปกรณ์และอุปกรณ์สนาม
ผู้ตัดสินทั้งสองคนจะต้องสวมเสื้อที่มีสีคล้ายกัน และต้องแตกต่างกับทีมที่แข่งขันทั้งสองทีม
สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ
สวมรองเท้าที่เหมาะกับสภาพสนาม และช่วยในการเคลื่อนไหว
อุปกรณ์ของผู้ตัดสินประกอบด้วย หนังสือกติกา(ปัจจุบัน), นกหวีดที่มีคุณภาพเสียงที่ดี, นาฬิกาจับเวลา, ใบลงโทษ และอุปกรณ์ที่ใช้บันทึกรายละเอียดของเกม
3.3 การประสานร่วมมือกันระหว่างผู้ตัดสิน
การร่วมมือกันและการช่วยเหลือกันระหว่างผู้ตัดสินเป็นสิ่งจำเป็น
ก่อนที่จะลงตัดสิน ผู้ตัดสินจะต้องปรึกษาหารือ และตกลงวิธีที่จะลงไปตัดสินและช่วยเหลือกัน การสื่อสารกันด้วยสายตาระหว่างผู้ตัดสินจะต้องได้รับการฝึกฝนและทำอย่างสม่ำเสมอ
ผู้ตัดสินจะต้องรับผิดชอบ และพร้อมที่จะช่วยเหลือ เมื่อผู้ตัดสินคู่ไม่สามารถจะมองได้เห็นเหตุการณ์หรืออยู่ในตำแหน่งที่มองได้ยาก ผู้ตัดสินจะต้องเตรียมพร้อมที่จะข้ามเส้นกลางสนาม และไปไกลเท่าที่จะทำได้ในฝั่งของผู้ตัดสินคู่ เพื่อช่วยเหลือและสร้างความมั่นใจให้กับคู่
ผู้ตัดสินทั้งสองคนจะต้องทำการบันทึกผู้ทำประตู และผู้ที่ได้รับใบลงโทษ และยืนยันหลังจบเกม
การเคลื่อนที่ และตำแหน่งการยืน
ผู้ตัดสินจะต้องมีการเคลื่อนที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่าย เพื่อที่จะเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมได้ตลอดทั้งเกม
ผู้ตัดสินที่ยืนนิ่งกับที่จะไม่สามารถเห็นการเล่นของผู้เล่นได้อย่างชัดเจนพอสำหรับการตัดสินใจที่ถูกต้องตลอดเวลา
สมรรถภาพดี, การเคลื่อนที่ที่ดี และการยืนตำแหน่งที่เหมาะสม จะทำให้ผู้ตัดสินมีสมาธิที่ดีในเกมการแข่งขัน และในการตัดสินใจ
ผู้ตัดสินแต่ละคนจะทำหน้าที่เป็นส่วนใหญ่ในครึ่งสนามที่เส้นกลางสนามอยู่ด้านซ้ายของตัวเอง
โดยทั่วไปตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของผู้ตัดสินคือด้านบน และด้านขวาของผู้เล่นฝ่ายรุก
สำหรับการเล่นบริเวณกลางสนาม และเขตทำประตู ผู้ตัดสินควรยืนใกล้เส้นออกข้าง
เมื่อเกมเล่นในเขตทำประตู ผู้ตัดสินจะต้องเคลื่อนที่มากขึ้นโดยเข้ามาด้านในสนามและออกจากกระดานด้านข้างสนาม เมื่อจำเป็นจะต้องเข้ามาในเขตทำประตูของตัวเองเพื่อจะช่วยในการมองเห็นการทำผิดกติกาที่สำคัญๆ และการทำประตู
การเล่นลูกโทษจากมุม หลังจากที่ลูกบอลออกนอกสนามไปแล้วผู้ตัดสินจะต้องเดินขึ้นมายังตำแหน่งที่จะช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนกับการเล่นที่กำลังจะเกิดขึ้น
การเล่นลูกที่จุดโทษ ผู้ตัดสินจะต้องยืนด้านหลังฝั่งขวามือของผู้เล่น
ผู้ตัดสินจะต้องระวังอย่าให้ตำแหน่งการยืนหรือวิ่งของตนเองรบกวนความต่อเนื่องของเกม
ผู้ตัดสินจะต้องหันหน้าเข้าหาผู้เล่นตลอดเวลา
3.5 สัญญาณนกหวีด
สัญญาณนกหวีดเป็นหัวใจหลักในการสื่อสารกับผู้เล่น และคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเกม
สัญญาณนกหวีดจะต้องมีเสียงดังชัดเจนสำหรับคนอื่นๆในสนามที่จะได้ยิน และไม่ได้หมายถึงว่าต้องให้สัญญาณยาวดังตลอดเวลา
ระดับของเสียงนกหวีดและระยะเวลาในการเป่าจะต้องแตกต่างกัน เพื่อบอกถึงการทำผิดกติกาที่ร้ายแรงกับผู้เล่น
3.6 สัญญาณมือ
สัญญาณมือจะต้องชัดเจน และแสดงยาวนานพอเพื่อให้ผู้เล่นและผู้ตัดสินอีกคนได้เห็นการตัดสิน
จะต้องใช้ท่าสัญญาณที่เป็นมาตรฐานเท่านั้น
การให้สัญญาณควรยืนนิ่งกับที่จะดีที่สุด
การชี้ทิศทางการเล่นไม่ควรชี้ข้ามร่างกายตัวของตัวเอง
การแสดงสัญญาณการทำผิดกติกาหรือการตัดสินใดๆควรมองผู้เล่นที่ให้ มิฉะนั้นอาจจะมีการทำผิดกติกาที่มากขึ้น และอาจแสดงให้เห็นถึงการขาดความมั่นใจในตนเอง
กติกาข้อที่ 4
ท่าสัญญาณของผู้ตัดสิน (Umpiring signals)
เวลา
เริ่มเกม : ให้หันหน้าไปหาผู้ตัดสินอีกคนแล้วยกแขนข้างหนึ่งขึ้นให้สุด
หยุดเวลา : ให้หันหน้าไปหาผู้ตัดสินอีกคนและเหยียดแขนที่ไขว้ตัดกัน(รูปกากบาท)เหนือศีรษะ
เหลือเวลาแข่งขันอีก 2 นาที : นิ้วชี้ ชี้ขึ้นพร้อมยกแขนทั้งสองข้างขึ้นจนสุดแขน
เหลือเวลาแข่งขันมากกว่า 1 นาที : นิ้วชี้ ชี้ขึ้นพร้อมยกแขนข้างเดียวขึ้นจนสุดแขน
บูลลี่ หันฝ่ามือเข้าหากัน ขยับแขนขึ้นลงด้านหน้าตัวเอง
ข้อปฏิบัติในการเล่น
ท่าสัญญาณสำหรับข้อปฏิบัติในการเล่นจะต้องแสดงทันทีถ้ามีการสงสัยของ ผู้เล่น
การเล่นที่อันตราย : วางมือเฉียงทแยงมุมตัดผ่านหน้าอก
การประพฤติผิดหรืออารมณ์รุนแรง : หยุดเวลา คว่ำมือทั้งสองลงด้านหน้าลำตัวข้างขยับแขนขึ้นลงช้าๆ
ลูกบอลสัมผัสเท้า : ยกเข่าขึ้นเล็กน้อย แล้วชี้ที่บริเวณต้นขา
บอลลอยสูง : หันฝ่ามือเข้าหากันห่างประมาณ 15 ซม. ขนานกับพื้นด้านหน้าตัวเอง
กีดขวางการเล่น : ยกแขนตัดกันเป็นรูปกากบาทด้านหน้าลำตัว
ใช้ไม้กีดขวางการเล่น : เหยียดแขนข้างหนึ่งเฉียงลงไปที่พื้นด้านหน้าตัวเอง แล้ววางมืออีกด้านข้างบน
ระยะห่าง 5 เมตร : ยกแขนขึ้นข้างหนึ่ง หันด้านหน้ามือออกและนิ้วทั้ง 5 กางออก
4.6 การลงโทษ
การได้เปรียบ : ยกแขนขึ้นข้างหนึ่งสูงมากกว่าระดับไหล่ในทิศทางที่ทีมที่ได้เปรียบพาลูกไป
ลูกกินเปล่า : ชี้ทิศทางด้วยแขนข้างหนึ่งที่ยกขนาดกับพื้น
ลูกกินเปล่าเพิ่มระยะอีก 10 เมตร : กำมือแล้วยกแขนขึ้นข้างหนึ่ง
ลูกโทษจากมุม : ชี้แขนทั้งสองข้างขนานกับพื้นไปที่ประตู
ลูกที่จุดโทษ : ชี้มือข้างหนึ่งไปที่จุดโทษ มืออีกข้างชี้ขึ้นข้างบน เหยียดแขนให้สุด สัญญาณนี้หมายถึงหยุดเวลาเช่นเดียวกัน
ขนาดสนามและอุปกรณ์ (Field and Equipment specifications)
กติกาข้อที่ 1
สนามและอุปกรณ์สนาม (Field and field equipment)
1.1 สนามเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาว 44.00 เมตร และกว้าง 22.00 เมตร
แนะนำให้ใช้สนามที่เต็มขนาด สำหรับการแข่งขันในระดับประเทศหรือท้องถิ่นสามารถใช้สนามขนาดเล็กได้คือความยาว 36.00 เมตร และกว้าง 18.00 เมตร
พื้นที่ที่แนะนำนอกเส้นหลัง 3 เมตร และเส้นข้าง 1 เมตร
1.2 เครื่องหมายบนสนาม
ไม่มีเครื่องหมายหรือเส้นใดๆที่นอกเหนือกติกานี้บนสนาม
เส้นกว้าง 50 มม. และจะต้องเห็นได้ชัดเจนตามแนวยาวของมัน
เส้นออกหลัง และเส้นต่างๆบนสนามเป็นส่วนหนึ่งของสนาม
เส้นต่างๆบนสนามต้องเป็นสีที่แตกต่างจากพื้นสนาม
1.3 กระดานด้านข้างของสนาม
ขนาดตามแนวยาวของสนาม ตั้งแต่ 36.00 – 44.00 เมตร
อยู่บนฐานสี่เหลี่ยมหน้าตัด 100 มม.
พื้นผิวที่หันเข้าหาสนามมีความเอียง 10 มม.
กระดานด้านข้างจะต้องทำมาจากไม้ หรือวัสดุที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน และจะต้องไม่มีข้อต่อหรือสิ่งรองรับที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้เล่นและผู้ตัดสิน
1.4 เส้นและเครื่องหมายอื่นๆบนสนาม
เส้นออกด้านหลังสนาม : มีความยาว 18.00 – 22.00 เมตร
เส้นประตู : เป็นส่วนหนึ่งของเส้นออกด้านหลังอยู่ระหว่างเสาประตูทั้งสอง
เส้นกลางสนาม : เส้นที่ตัดผ่านกลางสนาม
เส้น 300 มม.(30ซม.) ด้านในของสนามบนเส้นออกด้านหลังทั้งสองด้าน อยู่ออกจากขอบนอกประตูทั้งสองด้าน 6 เมตร วัดขอบด้านไกลที่สุดของแต่ละเส้น
เส้น 150 มม.(15ซม.) ด้านนอกของสนามบนเส้นออกด้านหลังทั้งสองด้าน 1.50 เมตรจากตรงกลางของเส้นออกด้านหลัง วัดจากขอบที่ใกล้ที่สุดของเส้นนี้
จุดของจุดโทษ 100 มม.(10ซม.) อยู่ด้านหน้ากึ่งกลางของประตูในแต่ละด้าน 7.00 เมตรจากขอบด้านในของเส้นประตู
1.5 เขตทำประตู
เส้น 3.00 เมตร ขนานกับเส้นออกด้านหลัง เส้นนี้อยู่ในสนามจุดศูนย์กลางของเส้นอยู่ตรงกับจุดศูนย์กลางของเส้นออกด้านหลัง ระยะห่างจากขอบด้านนอกของเส้น 3.00 เมตรกับขอบด้านนอกของเส้นออกด้านหลังคือ 9.00 เมตร
เส้นนี้ยังคงเป็นเส้นโค้งต่อไปทั้งสองด้านและบรรจบกับเส้นออกด้านหลังในรูปครึ่งวงกลม
เส้น 3.00 เมตร และส่วนโค้งเรียกว่าเส้นเขตทำประตู เขตที่ล้อมรอบโดยเส้นนี้เรียกว่าเขตทำประตู
*ขอบเขตของ E วัดจากเส้นประตูไม่ใช่จากเสาประตูระยะห่าง 6.00 เมตร
1.6 ประตู
เสาประตูสองเสาตามแนวตั้งร่วมกับคานประตูตามแนวนอน วางอยู่กึ่งกลางของเส้นออกด้านหลัง
เสาประตูและคานต้องมีสีขาว เป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก กว้าง 80 มม. และลึก 80 มม.
เสาประตูต้องไม่สามารถทำให้สูงขึ้นตามแนวดิ่งตามความสูงของคานประตู และคานประตูต้องไม่สามารถขยายตามแนวนอนตามเสาประตู
ระยะห่างระหว่างขอบด้านในเสาประตูทั้งสองด้านคือ 3.00 เมตร และระยะห่างระหว่างขอบที่ต่ำที่สุดของคานประตูกับพื้นคือ 2.00 เมตร
ที่ว่างนอกสนามที่อยู่ด้านหลังของเสาและคานประตูจะถูกปิดด้วยตาข่าย ด้านลึกของประตู ด้านบนลึกจากคานประตูอย่างน้อย 800 มม. และด้านล่างที่ติดกับพื้นลึกจากเสาประตูอย่างน้อย 1.00 เมตร
กระดานด้านข้าง และกระดานด้านหลัง ไม่ได้บังคับไว้ในกติกา แต่ถ้าติดตั้งควรเป็นไปตามข้อกำหนดดังนี้
กระดานด้านข้างสูง 460 มม.(46ซม.) และยาวอย่างน้อย 0.92 เมตร
กระดานด้านหลังสูง 460 มม.(46ซม.) และยาว 3.00 เมตร
กระดานด้านข้างอยู่ติดกับพื้น ยึดติดกับด้านหลังของเสาประตู
กระดานด้านหลังอยู่ติดกับพื้น ขนานกับเส้นออกหลัง และยึดติดกับกระดานด้านข้าง
กระดานด้านข้าง และกระดานด้านหลัง ด้านในประตูจะต้องมีสีเข้ม
ตาข่าย
ขนาดใหญ่ที่สุด 45 มม.
ติดกับด้านหลังของเสาประตู และคานประตูเป็นช่วงๆไม่เกิน 150 มม.(15ซม.)
ตาข่ายห้อยลงด้านนอกของกระดานด้านข้างและกระดานด้านหลัง
ตาข่ายจะต้องมัดให้แน่นเพื่อป้องกันลูกบอลทะลุผ่านระหว่างเสาประตู, คานประตู, กระดานด้านข้าง และกระดานด้านหลัง
ตาข่ายต้องกระชับแต่ไม่หลวมเพื่อป้องกันการกระดอนของลูกบอล
ขนาดของประตู
ที่นั่งนักกีฬาสำรอง และโต๊ะเทคนิค
ที่นั่งนักกีฬาของแต่ละทีมจะอยู่ด้านนอกของสนามทั้งสองฝั่ง
โต๊ะสำหรับเจ้าหน้าที่เทคนิคจะวางด้านนอกสนามบริเวณกลางสนาม ด้านเดียวกับที่นั่งนักกีฬาสำรอง
ตำแหน่งของที่นั่งนักกีฬาสำรอง และโต๊ะจะต้องไม่เป็นอันตรายกับผู้เล่น และผู้ตัดสิน
กติกาข้อที่ 2
ไม้ฮอกกี้ (Stick)
จะทำการวัดทั้งหมดของไม้ และวัตถุอื่นๆที่มีการหุ้มหรือติดไปกับไม้ที่ใช้ในการแข่งขัน
ในข้อนี้จะระบุถึงคุณสมบัติของไม้ฮอกกี้ ซึ่งคุณสมบัติอื่นๆที่ไม่ได้ระบุไว้ในกติกาข้อนี้สหพันธ์ฮอกกี้ฯขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามไม่ให้นำไม้ที่เห็นว่าไม่ปลอดภัย หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายลงแข่งขัน
รูปร่างและขนาดของไม้จะถูกทดสอบโดยการวางด้านหน้าไม้ที่ใช้เล่นคว่ำลงกับพื้นที่ราบ ตามรูปที่ 3 และ 4 เส้น A, A1, B, B1 และ Y เส้นทั้งหมดขนานกัน และตั้งฉากกับเส้น C และ X
ไม้มีรูปร่างดั้งเดิม ทั้งหัวตลอดคนด้ามจับ
ก. ตำแหน่งของไม้ตามรูปที่ 3 และ 4 เส้น Y ลากผ่านตรงกลางตั้งแต่ด้านบนของด้ามจับ ; ด้ามจับของไม้เริ่มต้นจากเส้น C และต่อเนื่องไปตามทิศทางของเส้น Y+
ข. ฐานของหัวไม้สัมผัสเส้น X ; หัวของไม้เริ่มต้นที่เส้น X และสิ้นสุดที่เส้น C
ไม้ที่จะได้รับการตรวจสอบจะประกอบด้วยส่วนต่างๆที่เคลือบ ครอบคลุม หรือยึดติด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไม้ฮอกกี้
ข้อกำหนดอื่นๆของไม้ ตามคำอธิบายด้านล่างนี้
ก. “ราบเรียบ” หมายถึง ต้องไม่มีส่วนที่หยาบ หรือคม พื้นผิวต้องเรียบเป็นปกติ ไม่มีร่อง ไม่ร่น หรือเป็นสัน ต้องไม่มีขอบที่มีมุมที่เป็นรัศมีน้อยกว่า 3 มม.
ข. “แบน” หมายถึง ต้องไม่มีส่วนโค้งเว้า สูง หรือเป็นโพรง ที่มีรัศมีน้อยกว่า 2 มม. และแบนราบไปถึงขอบของไม้ที่มีรัศมีไม่น้อยกว่า 3 มม.
ค. “ต่อเนื่อง” หมายถึง ตลอดแนวของไม้จะต้องไม่ถูกรบกวนด้วยสิ่งใดๆ
ด้านที่ใช้เล่นทั้งหมดแสดงในรูปที่ 3 และ 4 รวมทั้งขอบของด้านนั้นๆ
จากด้ามจับไปยังหัวไม้ จะต้องราบเรียบและต่อเนื่อง ต้องไม่มีส่วนที่ไม่เรียบหรือไม่ต่อเนื่อง
ส่วนหัวไม้ต้องเป็นทรง ‘J’ หรือ ‘U’ มีรูปร่างปลายหงายหรือปลายเปิดซึ่งถูกจำกัดโดยเส้น C
ส่วนของหัวไม้ไม่มีข้อจำกัด ระหว่างเส้น C และ X ในทิศทาง X- หรือ X+
2.10 ส่วนหัวไม้จะต้องแบนบนด้านซ้ายมือเท่านั้น (ด้านที่ผู้เล่นถือไม้ให้ส่วนหัวไม้ชี้ตรงไปด้านหน้าของผู้เล่น ด้านที่แสดงในรูป)
2.11 ค่าเบี่ยงเบนนูนหรือเว้าจะต้องเรียบ และต่อเนื่อง สูงสุดไม่เกิน 4 มม.
การเบี่ยงเบนด้านของหัวไม้ที่ใช้เล่นได้รับการทดสอบโดยการวางสันด้านตรงผ่านด้านนี้ตรงส่วนใดๆตามหัวไม้ และใช้มาตรวัดความลึกวัดความโค้งเว้าด้านล่างตรงสันไม้ต้องไม่เกิน 4 มม
รอยยุบ หรือร่องต่างๆ ไม่อนุญาตให้ใช้ในเล่น
2.12 ด้านหน้าไม้ที่ใช้เล่นนั้น จะต้องราบเรียบต่อเนื่องตลอดพื้นผิว
2.13 การบิดทำให้ผิดรูปร่างตามแนวยาวของไม้ไม่อนุญาตให้ใช้ เช่น จุดตัดของระนาบประกอบด้วยด้านแบนที่ใช้ในการเล่น จะต้องขนานกับกับด้านแบนในส่วนของด้ามไม้ตามเส้นC-C
2.14 อนุญาตให้ส่วนของด้ามจับ โค้ง งอ ยื่นออกมาจากเส้น A แต่ไม่เกินเส้น B หรือ จับ โค้ง งอ ยื่นออกมาจากเส้น A1 แต่ไม่เกินเส้น B1
2.15 ความโค้งตามแนวยาวของไม้จะต้องราบเรียบต่อเนื่องตามแนวยาวทั้งหมด ต้องเกิดขึ้นตามแนวด้านหน้าหรือด้านหลังของไม้แต่ต้องไม่ทั้งสองด้าน และจำกัดความลึกที่ 25 มม. จุดสูงสุดต้องไม่ชิดกับฐานของหัวไม้(เส้น X ในรูปที่ 3) มากกว่า 200 มม. ความโค้งที่หลากหลายไม่อนุญาต
ไม้วางลงบนพื้นราบโดยให้หน้าไม้คว่ำลงตามธรรมชาติ(ตามรูปที่ 5) อุปกรณ์ที่แสดงในรูปที่ 5 คือที่ใช้ในการวัดโค้งและความลาดเอียง ที่ซึ่งวางอยู่บนพื้นระนาบที่ใช้ทดสอบ ปลายสูง 25 มม. จะต้องไม่ลอดผ่านอย่างสะดวกมากกว่า 8 มม.ในส่วนใดๆของไม้
2.16 สันไม้และด้านที่ไม่ใช้ในการเล่นจะต้องกลมและราบเรียบต่อเนื่อง ส่วนแบนของขอบหรือด้านหลังไม้ไม่อนุญาต
พื้นผิวที่เป็นคลื่น ขรุขระ ด้านหลังของด้ามจับอนุญาตให้ความลึกไม่เกิน 4 มม. และห้ามไม่ให้มีพื้นผิวที่เป็นคลื่น ขรุขระ ด้านหลังของหัวไม้
2.17 รวมทั้งส่วนประกอบใดๆที่ติดอยู่กับไม้ ไม้จะต้องลอดผ่านห่วงที่มีเส้นผ่านจุดศูนย์กลาง 51 มม.
2.18 น้ำหนักรวมของไม้จะต้องไม่เกิน 737 กรัม
2.19 ความเร็วของลูกต้องไม่มากกว่า 98% ของความเร็วหัวไม้ อยู่ภายใต้เงื่อนไขของการทดสอบ
ความเร็วของลูกจะถูกกำหนดขึ้นในการทดสอบมากกว่า 5 ครั้ง ที่ความเร็วของไม้ 80 กม./ชม. ในห้องปฏิบัติการซึ่งได้รับการรับรองจากสหพันธ์ฮอกกี้ฯ ความเร็วของลูกจะถูกคำนวณจากเวลาที่ลูกผ่านจุดสองจุด และแสดงเป็นอัตราส่วนกับความเร็วของไม้ที่ระบุไว้ สหพันธ์ฯได้อนุมติให้ใช้ลูกที่ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่อุณหภูมิ20ºC และความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ50%
2.20 ไม้จะต้องมีความยาวที่ราบเรียบ
ไม้ที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายไม่อนุญาตให้ลงเล่น
2.21 ไม้ที่ติดสิ่งต่างๆเพิ่มเติมอาจจะทำจากวัสดุอื่นๆที่ไม่ใช่ชิ้นส่วนโลหะหรือส่วนประกอบโลหะใดๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสมสำหรับจุดประสงค์การเล่นฮอกกี้ และไม่ได้เป็นอันตราย
2.22 การใช้เทปหรือเรซิ่นที่ได้รับอนุญาตโดยมีเงื่อนไขว่าพื้นผิวของไม้จะต้องราบเรียบ และตรงกับข้อกำหนดของไม้
กติกาข้อที่ 3
ลูกฮอกกี้ (Ball)
3.1 บอล
ลูกบอลเป็นทรงกลม
มีเส้นรอบวง ระหว่าง 224 มม. และ 235 มม.
น้ำหนักอยู่ระหว่าง 156 กรัม และ 163 กรัม
ทำจากวัสดุใดๆที่มีสีขาว (หรือสีที่มีการตกลงกันซึ่งต่างจากพื้นสนาม)
พื้นผิวราบเรียบ และแข็ง รอยขรุขระต้องได้รับอนุญาต
กติกาข้อที่ 4
อุปกรณ์ของผู้รักษาประตู (Goalkeeper’s equipment)
4.1 เครื่องป้องกันแขน
แต่ละชนิดมีความกว้างสูงสุด 228 มม. และมีความยาว 355 มม. เมื่อวางด้าน ฝ่ามือด้านแบนขึ้น
ต้องไม่มีการเพิ่มเติมสิ่งใดๆที่จะแทนไม้ เมื่อไม่มีไม้อยู่ในมือ
4.2 เครื่องป้องกันขา: แต่ละชนิดมีความกว้างสูงสุด 300 มม. เมื่ออยู่ในขาของผู้รักษาประตู
ขนาดของเครื่องป้องกันมือ และเครื่องป้องกันขา จะถูกวัดโดยใช้มาตรวัดที่มีขนาดเท่ากับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
ประกาศ เพิ่มเติมกติกาฮอกกี้ ประจำปี 2554
กติกาฮอกกี้ในร่ม (เพิ่มเติม)
1.ใบเขียว พัก 1 นาที
– ในระหว่างช่วงเวลาที่ถูกพัก ทีมจะต้องเล่นโดยมีผู้เล่นน้อยกว่า1คน
– ผู้ตัดสินจะเริ่มเกมทันที หลังจากให้ใบเขียวแก่ผู้เล่น
– ผู้เล่นที่ได้รับใบเขียวจะต้องออกจากสนามทันที ถ้าผู้เล่นเจตนาขัดขวางหรือรบกวนการเล่นจะต้องได้รับการลงโทษเพิ่มเติมจากผู้ตัดสินตามกติกา
– การพัก 1 นาที จะเริ่มจับเวลาเมื่อนักกีฬานั่งลงบนเก้าอี้ข้างสนามแล้วเท่านั้น
– เวลา 1 นาทีจะถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่เทคนิคที่ปฏิบัติหน้าที่ในการแข่งขันเกมนั้นๆ
2.การทำผิดกติกาผู้เล่นข้ามเส้นก่อนการส่งลูกในการเล่นPenalty Corner
2.1 ถ้าฝ่ายรับทำผิดกติกา (ยกเว้นผู้รักษาประตู) ผู้เล่นคนนั้นจะต้องขึ้นไปอยู่ที่เส้นกลางสนาม และไม่สามารถนำผู้เล่นคนอื่นมาทดแทนได้
2.2 ถ้าผู้รักษาประตูทำผิดกติกา ฝ่ายรับจะต้องเล่นโดยมีผู้เล่นน้อยกว่า1คน
2.3 ถ้าทีมที่เป็นฝ่ายป้องกันเลือกที่จะเล่นโดยมีผู้เล่นน้อยกว่า1คน สามารถทำได้เช่นเดียวกับข้อ2.1
2.4 ถ้าฝ่ายรุกทำผิดกติกา ผู้เล่นคนนั้นจะต้องขึ้นไปอยู่ที่เส้นกลางสนาม
2.5 ฝ่ายรุกที่ส่งบอลเข้าเล่นจากเส้นหลังจะต้องเล่นบอลจังหวะเดียวโดยไม่หลอกล่อหรือเจตนาทำให้ฝ่ายรับเสียจังหวะ ถ้าทำผิดกติกาจะต้องขึ้นไปอยู่ที่เส้นกลางสนาม และสามารถทดแทนได้ด้วยผู้เล่นที่อยู่รอบเขตยิงประตูเท่านั้น
กติกาการแข่งขันยิงลูกที่จุดโทษ
(PENALTY STROKE COMPETITION REGULATIONS)
ผู้เล่นจำนวน 5 คน ของทั้งสองทีม ที่ถูกเลือกโดยผู้จัดการทีมจากใบรายชื่อนักกีฬา แต่ต้องไม่รวมถึงผู้เล่นที่ถูก แบนออกจากการแข่งขันโดยฝ่ายจัดการแข่งขัน ลำดับการยิงให้ยิงตามลำดับ 1-5 ในใบส่งรายชื่อ
ระหว่างการแข่งขันยิงลูกที่จุดโทษนักกีฬา(ผู้เล่น และผู้รักษาประตู) ที่ถูกใบแดง จะต้องออกจากการแข่งขันทันที และไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้
ผู้ตัดสินจะเป็นผู้เลือกว่าจะใช้ประตูฝั่งใดในการยิงลูกที่จุดโทษ และโยนเหรียญเสี่ยงกับหัวหน้าทีมทั้งสองเพื่อ เลือกว่าฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายที่ยิงก่อน
ทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ
ในกรณีที่การยิงรอบแรกเสมอกันให้ใช้การยิงแบบ Sudden Death ในรอบที่สอง และจะต้องใช้ผู้เล่น 5 คนเดิมจากการยิงในรอบแรก ไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับการยิงในใบส่งรายชื่อ
ทีมที่ยิงประตูได้มากกว่าคู่ต่อสู้จากการเสมอกันจะเป็นฝ่ายชนะการยิงในรอบ Sudden Death จะไม่มีการจำกัดจำนวนประตูที่ยิงได้ของแต่ละทีม
ถ้าหากทั้งสองทีมยังเสมอกันให้ยิง Sudden Death ในรอบที่สาม และตั้งแต่รอบที่สามเป็นต้นไปผู้จัดการทีมจะต้องเลือกผู้เล่น 5 คนใหม่ในทุกๆรอบไม่ซ้ำกับผู้เล่นที่ยิงไปแล้ว
ทีมที่เลือกยิงก่อนในรอบแรกจะต้องไม่ยิงเป็นทีมแรกในรอบ Sudden Death
ผู้จัดการทีม ผู้รักษาประตู และผู้เล่น 5 คนที่แข่งขันเท่านั้นที่มีสิทธิอยู่ในสนามในระหว่างการแข่งขันยิงลูกที่จุดโทษ โดยทั้งหมดนี้จะต้องอยู่นอกกลางสนามยกเว้นผู้รักษาประตู และผู้เล่นที่กำลังแข่งขัน
ประกาศใช้ทุกรายการในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2554
คณะอนุกรรมการผู้ตัดสิน สมาคมฮอกกี้แห่งประเทศไทย